MGR Online - แม่พลทหารร้องกองปราบช่วยสางคดีลูกถูกแทงดับ หลังไปสังสรรค์กับเพื่อนทหารที่ร้าน ป.กุ้งเผา ปิ่นเกล้า เข้าแจ้งความ สน.บางยี่ขัน ตำรวจไม่รับแจ้งความ ลงเพียงบันทึกประจำวัน ปัดเป็นเรื่องของทหาร ส่วนต้นสังกัดสั่งปิดปาก หวั่นคดีไม่คืบ
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นางรัชนก แซ่ลิ่ม อายุ 61 ปี มารดาของพลทหารบุญฤทธิ์ เอี่ยมสิริลักษณ์ หรือ เก่ง อายุ 21 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดกองทัพภาคที่ 1 พร้อมด้วย นายวรินทร์ อัฐนาค ประธานชมรมโดมเพื่อคุณธรรม เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ศุภชัย ชาติมนตรี รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป.เพื่อร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม กรณีที่ พลทหารบุญฤทธิ์ ถูกเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกัน ชวนไปสังสรรค์ที่ร้านอาหาร ป.กุ้งเผา สาขาปิ่นเกล้า ก่อนจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา
นางรัชนก กล่าวว่า ลูกชายสมัครใจเข้าเป็นทหารเอง โดยในวันเกิดเหตุบุตรชายได้ขอลาพักร้อนกลับมาจากค่ายทหาร มาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านพักย่านปิ่นเกล้า เขตบางกอกน้อย กทม.ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มเศษ ได้มีเพื่อนทหารเกณฑ์โทรศัพท์ชักชวนบุตรชายให้ออกไปสังสรรค์กันที่ร้าน ป.กุ้งเผา ซึ่งรู้สึกเป็นห่วงบุตรชายที่ขอออกไปกับเพื่อน จนประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกันก็ได้โทรศัพท์ไปหา แต่ปรากฏกลับมีผู้ชายอีกคนรับสายแทน โดยบอกกับตนว่า บุตรชายหมดสติ ขณะนี้กำลังช่วยกันปั๊มหัวใจ ก่อนที่เสียงปลายสายจะเงียบหายไป ทำให้ตนรู้สึกตกใจและเป็นห่วงบุตรชายอย่างมาก
นางรัชนก กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น พยายามโทรศัพท์กลับไปหาลูกอีกหลายครั้ง กระทั่งมีคนอื่นรับสายบอกว่า บุตรชายถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยา จึงรีบเดินทางไปทันที แต่ปรากฏว่า พบบุตรชายในสภาพนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีบาดแผลถูกของมีคมแทงที่ลำคอข้างซ้าย อาการสาหัส เมื่อเค้นถามจากเพื่อนๆ ทหารเกณฑ์ที่ออกไปด้วยกัน จึงทราบว่า ช่วงเกิดเหตุได้ออกไปเที่ยวด้วยกันประมาณ 10 คน บางคนหนีออกจากค่ายทหารมา ภายหลังไปนั่งดื่มสุราแล้วได้มีเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น โดยนอกจากบุตรชายแล้วยังมีทหารเกณฑ์ได้รับบาดเจ็บถูกของมีคมบาดที่กกหู เช่นเดียวกัน ต่อมาบุตรชายได้เสียชีวิตลง ทำให้ตนรู้สึกเศร้าเสียใจมาก ไม่คิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวตน
นางรัชนก กล่าวอีกว่า ต่อมาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางยี่ขัน แล้ว แต่ทางตำรวจแจ้งมาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของทหาร ขอร้องทางญาติว่าอย่าไปร้องเรียนต่อสื่อมวลชน ตำรวจจะจัดการคดีนี้เอง โดยมีการลงบันทึกประจำวันไว้เพียงเท่านั้น จากนั้นได้สอบถามไปยังนายทหารยศ พ.ต.ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของบุตรชาย ก็แจ้งกับตนเพียงว่าจะนำตัวทหารเกณฑ์ทั้งหมดไปสอบสวน และขอร้องให้ปิดเรื่องนี้ไว้ก่อน ยืนยันว่า จะดูแลคดีให้ รวมทั้งได้ยื่นมือจะช่วยเหลือจ่ายค่าทำขวัญเป็นเงิน 2 แสนบาท แต่ทางครอบครัวไม่ขอรับไว้ โดยจนถึงขณะนี้เรื่องก็เงียบหายไม่มีความคืบหน้าใด เกรงว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าร้องเรียนกองปราบปรามดังกล่าว
ด้าน นายวรินทร์ เปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นคดีที่ก้ำกึ่ง ระหว่างการพิจารณาคดีของศาลทหาร หรือศาลพลเรือน จึงตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทางกองทัพมีความพยายามจะปกปิดตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ รวมทั้งยังไม่ขยายผลหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ จึงอยากให้ทางตำรวจ บก.ป.ช่วยสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีนี้ สำหรับศพของผู้เสียชีวิตขณะนี้ทราบว่าได้เก็บไว้ที่วัดบางยี่ขัน โดยญาติจนเก็บศพไว้จนกว่าจะหาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้ ด้านพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป