MGR Online - ตำรวจ ปส.คุมตัว “เดช” น้อง “กานต์ วิภากร” อดีตภรรยา “เสก โลโซ” ข้อหาเสพ-ค้าไอซ์ พี่สาวยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว ล่าสุด ศาลอนุญาตประกันตัวตีราคา 370,000 บาท
วันนี้ (28 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คุมตัว นายเดชอุดม หรือ เดช แสงสายทิม อายุ 41 ปี น้องชายของ “กานต์-วิภากร” อดีตภรรยา “เสก โลโซ” ศิลปินร็อกชื่อดัง ผู้ต้องหาคดีค้ายาเสพติด มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกต่อศาลรวม 2 สำนวน เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค.- 8 ก.ย. นี้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบพยานอีก 7 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา รอผลการตรวจสอบยาเสพติดของกลาง และรวบรวมเอกสารทางราชการประกอบสำนวนการสอบสวน
โดยคำร้องแรกระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า นายเดชอุดม มีพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดประเภทไอซ์ให้กับลูกค้า จึงเฝ้าสังเกตการณ์จนพบนายเดชอุดมขับรถมาจอดริมถนน ซ.ประเสริฐมนูญกิจ 33 แล้วมีชายคนหนึ่งขี่จักรยานมาพบกับนายเดชอุดม มีการส่งสิ่งของให้กันแล้วแยกย้าย เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ติดตามตรวจค้นชายขี่จักรยานพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ ซึ่งชายคนดังกล่าวรับว่าซื้อมาเพื่อเสพเอง จึงจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายเดชอุดมติดตามไม่ทัน จึงไม่สามารถจับกุมได้ และขอศาลออกหมายจับนายเดชอุดม ผู้ต้องหา ต่อมาวันที่ 27 ส.ค. 2561 เจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักที่ จ.นนทบุรี พบ นายเดชอุดม ผู้ต้องหาอยู่ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้าน ตรวจค้นพบยาเสพติดประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักประมาณ 0.40 กรัม, เครื่องกระสุนปืนรวม 94 นัด และของกลางอื่น การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. และบ้านพักที่ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี ชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ส่วนคำร้องฉบับที่สองบรรยายพฤติการณ์สรุปว่า วันที่ 27 ส.ค. 2561 จากการตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาพบของกลางยาไอซ์และเครื่องกระสุนปืน นายเดชอุดม ผู้ต้องหาให้การว่า ได้เสพยาไอซ์มาก่อนที่จะถูกจับกุม และยินยอมให้ตรวจสารเสพติดจากปัสสาวะ เบื้องต้นพบว่าให้ผลเป็นบวก จากนั้นจึงนำไปตรวจที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติ ผลการตรวจพบสารเสพติดชนิดเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย
ท้ายคำร้องทั้งสองสำนวน พนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประตัวผู้ต้องหา เนื่องจากคดียาเสพติดมีอัตราโทษสูง เป็นภัยต่อสังคมและประเทศชาติ หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขัง
ต่อมา “กานต์ วิภากร” พี่สาวของนายเดชอุดม พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาศาลเพื่อยื่นประกันตัวนายเดชอุดม โดยเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงิน 370,000 บาท ขอให้ศาลพิจารณาอนุญาตปล่อยชั่วคราว
“กานต์ วิภากร” เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับน้องชายเพียงเล็กน้อยเรื่องการต่อสู้คดี ก่อนที่น้องชายจะขอตัวพักผ่อน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยอมรับว่ารู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าน้องชายจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เจอหน้าน้องชาย เพราะแยกกันอยู่คนละบ้าน และได้คุยเรื่องนี้กับพ่อแม่ไปแล้ว ซึ่งต่างก็รู้สึกตกใจและเสียใจ แต่ขอให้สู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม เพราะพ่อซึ่งเป็นอดีตนายตำรวจเป็นคนที่เข้มงวดเรื่องนี้ หากพบว่าคนในบ้านไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดก็จะไม่ช่วยเหลือ ส่วนกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ว่าตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง และอยากให้สังคมมองถึงข้อเท็จจริงทางคดีด้วย
สำหรับความคืบหน้าการรักษาโรคไบโพลาร์ของ “เสก โลโซ” อดีตสามีนั้น “กานต์ วิภากร” ระบุว่า ปัจจุบันเสกร่าเริงแจ่มใสดี มีการพูดคุยเล่นกับลูกตามปกติ ไม่มีความเครียด แต่ในส่วนของการรักษานั้น ตอนนี้ก็ยังคงทรงตัว เบื้องต้นยังไม่สามารถกำหนดวันเวลาที่ชัดเจนได้ว่าเสกจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่
ขณะที่ นายชุติพงศ์ บุญเกิด ทนายความของนายเดชอุดม เปิดเผยว่า เบื้องต้นเท่าที่คุยกับลูกความก็ยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดจริง แต่ไม่ได้จำหน่ายยาเสพติด ส่วนเรื่องคดีที่ถูกซัดทอดยังไม่ได้พูดคุยในรายละเอียด จะขอรอให้ลูกความมีความพร้อมดีกว่านี้ก่อน ส่วนแนวทางการต่อสู้ก็จะพิจารณาว่ากันไปตามข้อเท็จจริง คือ ส่วนไหนที่กระทำผิดจริงก็จะแนะนำให้รับสารภาพ เพื่อเป็นเหตุในการบรรเทาโทษ แต่ส่วนที่ไม่ได้กระทำผิดก็ต้องว่ากันในรายละเอียด อย่างเรื่องที่พบยาเสพติดในบ้านพักก็ยังมีข้อเท็จจริงที่ต้องพิจารณาอีก เพราะบ้านหลังดังกล่าว มักมีเพื่อนของลูกความเข้าไปพักค้างบ่อยครั้งด้วย
ภายหลังศาลพิจารณาคำร้องแล้ว “กานต์ วิภากร” เผยว่า ศาลได้อนุญาตให้ประกันตัวนายเดชอุดมแล้ว ตีราคาประกัน 370,000 บาท ส่วนตัวรู้สึกดีใจที่ศาลให้ประกันตัว เพราะส่วนตัวมองว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็ก แต่ที่มีคนให้ความสนใจ เพราะนายเดชอุดมเป็นน้องชายของตนเอง