MGR Online - ศาลมีนบุรีสั่งจำคุก “เอมี่” เสพไอซ์ 6 เดือน ปรับ 1 หมื่น ศาลปรานีลดโทษเหลือจำ 3 เดือน ปรับ 5 พัน โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ยกฟ้องข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนแฟนหนุ่มสั่งจำคุกฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย 25 ปี 4 เดือนครึ่ง ปรับ 7.5 แสนบาท
วันนี้ ( 28 ส.ค.) ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำพิพากษาคดี ยาเสพติด หมายเลขดำ อ.9811/2560 ที่พนักงานอัยการคดียาเสพติด เป็นโจทก์ฟ้องนายปุณยวัจน์ หรือ พล หิรัณย์เตชะ อายุ 41 ปี และ น.ส.อาเมเรีย หรือ เอมี่ จาคอป อายุ 29 ปี นางเอกสาวลูกครึ่งไทย- เนเธอร์แลนด์ อดีตนางเอกชื่อดังจากละคร “ธิดาวานร” เจ้าของวลี “แม่มา” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี และอดีตมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์ และยาอี อันเป็นยาเสพติดประเภท1 ไว้ในครอบครองเพื่อเสพและจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย
กรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ย .60 จำเลยทั้งสองร่วมกันมียาไอซ์ หนัก 70 กรัม และยาอี 16 เม็ดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ และเพื่อจำหน่าย พร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล 1 เครื่อง อุปกรณ์ในการเสพ ขณะที่จำเลยที่2 กำลังเสพยาเสพติด ภายในห้องพักก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ 191 บุกเข้าตรวจค้นและจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 100/84 หมู่บ้านชัยพฤกษ์ ถ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. ของจำเลยที่ท2
นายปุณยวัจน์ จำเลยที่1 ให้การรับสารภาพโดยตลอด
ส่วนน.ส.เอมี จำเลยที่ 2 ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาเสพยาเสพติดเท่านั้น โดยให้การปฏิเสธข้อหา มียาเสพติดไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่าย
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้ว ฝ่ายโจทก์มีเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเบิกความฟังได้ว่า จำเลยที่1 ได้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้แก่ลูกค้ารายหนึ่ง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมขยายผลจนทราบว่า ซื้อจากจำเลยที่ 1 เจ้าหน้าที่จึง ให้ติดต่อล่อซื้อจากจำเลยที่ 1 อีกครั้งมีการนัดส่งยาเสพติด ที่ร้านอาหาร" สตรีท"กระทั่งจับกุมตัวจำเลยที่1 แล้วพามาตรวจค้นที่บ้านพัก พบจำเลยที่ 2 ขณักำลังเสพยาของกลาง บริเวณกลางห้องนอนชั้น 2 พร้อมยาเสพติด และอุปกรณ์การเสพ
ศาลเห็นว่าพยานโจทก์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เบิกความไปตามจริง ปฏิบัติตามหน้าที่ ไม่เคยรู้จักจำเลยที่ 1 มาก่อน จึงไม่มีเหตุปรักปรำกลั่นแกล้งใส่ร้ายจำเลยให้ต้องรับโทษ จึงเชื่อโดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้องจริง
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายด้วยหรือไม่ เห็นว่า จากข้อเท็จจริงและการนำสืบของโจทก์ยังรับฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 มีส่วนร่วมอย่างไร อีกทั้งจำเลยที่1 ก็ยืนยันหนักแน่นว่า เป็นผู้ติดต่อซื้อยาเสพติดจากผู้ค้ามาจำหน่ายด้วยตัวเองตั้งแต่แรก โดยจำเลยที่ 2 ไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด แม้จะพบว่า จำเลยกำลังเสพยาเสพติดในห้องนอนของจำเลยที่ 2 ก็ตาม พยานหลักฐานโจทก์ยังมีข้อสงสัย แม้ตำรวจตรวจยึดยาเสพติดของกลางได้ในบ้านเกิดเหตุ กรณียังถือไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 กระทำผิดฐานมียาเสพติดไว้ในครอบครัวเพื่อจำหน่าย
พิพากษาว่า จำเลยที่1 มีความผิด ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 เป็นความปิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปฐานมีเมทแอมเหตามีนำว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้จำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1 ล้านบาท ฐานเสพแอมเฟตามีน จำคุก 6 เดือน ให้เพิ่มโทษกึ่งหนึ่ง เนื่องจากจำเลยที่ 1 ที่เคยต้องโทษฐานกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่มากระทำผิดซ้ำในเวลา 5 ปี คงจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 1.5 ล้านบาท ฐานเสพยาเสพติดจำคุก 9 เดือน
ส่วนจำเลยที่ 2 ฐานเสพยาเสพติด จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท จำเลยทั้งสอง รับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
ให้จำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 25 ปี 4 เดือน 15 วัน ปรับ 750,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาทแต่ให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี และให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ ทุก 3 เดือน ภายใน 1 ปี และตรวจสารเสพติดทุกครั้ง รวมทั้งให้ร่วมทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ 24 ชั่วโมง ริบของกลาง
โดยวันนี้ เอมี ซึ่งหน้าตายิ้มแย้มสดใส ไม่แสดงอาการเคร่งเครียด และนายปุณยวัจน์ ถูกเบิกตัวจากเรือนจำในชุดต้องขังมาฟังคำพิพากษา โดยมีนางลำดวน และนายฮันนาส จาคอป มารดา และบิดา เดินทางมาร่วมเป็นกำลังใจ
ภายหลังฟังคำพิพากษา เอมี มีสีหน้าดีใจ ขณะที่นางลำดวน กล่าวว่า ดีใจมาก ขอขอบคุณศาลที่ให้ความเป็นธรรมแก่บุตรสาว ส่วนนายฮันนาส กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเป็น ภาษาอังกฤษว่า I very happy
ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทนายความของเอมี กล่าวสั้นๆ ว่า พอใจกับผลคำพิพากษา หากอัยการจะยื่นอุทธรณ์ก็ต้องแก้อุทธรณ์ต่อไป
ส่วนนายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนายปุณยวัจน์ กล่าวว่า พอใจกับผลคำพิพากษา ตนและลูกคงจะไม่ยื่นอุทธรณ์ ตอนแรกคิดว่า จะรับโทษหนักกว่านี้ แต่ศาลท่าน ปรานีมาก