xs
xsm
sm
md
lg

พม.เร่งช่วยเหลือครอบครัวเด็ก 7 ขวบ ถูกจ่าทหารตุ๋ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือครอบครัวเหยื่อจ่าทหารตุ๋ยเด็ก ฝาแฝดวัย 7 ขวบ พร้อมประสาน สพป.ปทุมธานี หาโรงเรียนให้เด็กใกล้กับที่พักอาศัยของครอบครัว เพื่อที่จะได้ดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 24 ส.ค.61 นางรุ่งทิวา สุดแดน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี ได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่โครงการบ้านเอื้ออาทร รังสิต คลองหนึ่ง ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เพื่อเข้าช่วยเหลือครอบครัว นางสาวอริสา สุริยบุตร อายุ 46 ปี ชาว จ.ตรัง ซึ่งมีลูกชายฝาแฝดวัย 7 ขวบ ทั้ง 2คน และถูกจ่าทหารตุ๋ย ซึ่งเหตุเกิดที่ จ.ตรัง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด้าน นางรุ่งทิวา สุดแดน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า วันนี้พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาให้ความช่วยเหลือครอบครัวของ นางสาวอริสา สุริยบุตร ซึ่งมีลูกชายฝาแฝด วัย 7 ขวบทั้ง 2 คน และมีข่าวว่าถูกจ่าทหารตุ๋ยจนต้องหนีมาอยู่กับญาติที่ จ.ปทุมธานี นั้น ในเบื้องต้นตนเองได้คุยกับแม่เด็กทั้ง 2 คนแล้ว ว่า ให้ตนเองได้หาที่เรียนให้กับลูกๆ เพราะลูกยังอยู่ในวัยเรียนและต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ซึ่งสภาพจิตใจของเด็กๆ นั้น เวลานี้ก็มีอาการร่าเริงเหมือนเด็กปกติทั่วไป ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้น และตนก็พึ่งจะรู้ว่าแม่ของเด็กทั้ง 2 คนได้พาลูกๆ มาอยู่ที่ จ.ปทุมธานี

ส่วน นางสาวอริสา สุริยบุตร แม่ของเด็กทั้ง 2 คนนั้น ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เวลานี้ในเรื่องของคดีทางพนักงานสอบสวนก็ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่าได้ส่งสำนวนไปหมดแล้ว และเหตุที่เกิดขึ้นนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งตนก็วิตกว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า จึงต้องมาให้ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ช่วยเหลือดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางจ่าทหารที่ทำร้ายลูกตนนั้น ทางผู้บังคับบัญชาได้นำไปขังคุกทหารแล้ว ซึ่งตนเองก็ได้พาลูกๆ มาอยู่กันที่ จ.ปทุมธานี หลังเกิดเรื่องเพียงไม่นาน เพราะตนกลัวเรื่องความมั่นปลอดภัยมากกว่า โดยปกติทั่วไปจ่าทหารคนนั้นก็เป็นเพื่อนบ้านกันมานานสิบกว่าปีแล้ว ซึ่งตนก็ไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายจิตใจลูกของตนได้เพียงนี้ ซี่งตนก็อยากให้ลูกทั้ง 2 คน เข้าเรียนในโรงเรียนที่ใกล้ๆ บ้าน

ตามที่ กรณีสื่อต่างๆ นำเสนอข่าว “อสุจิติดกางเกง! ร้องกองปราบ “จ.ส.อ.” ตุ๋ยเด็ก ฝาแฝดวัย 7 ขวบ แม่แฉไม่ใช่ครั้งแรก” หลังจากเกิดเรื่องมารดากับลูกได้ย้ายออกจากบ้านพักหลังดังกล่าวแล้วมาพักอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.ปทุมธานี เพื่อความปลอดภัย ด้าน นางรุ่งทิวา สุดแดน พมจ.ปท. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน พร้อมรองสารวัตร ฝ่ายสืบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาฯ และมอบหมายเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ ณ บ้านเอื้ออาทร ย่านรังสิต ซึ่งได้พบ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี (มารดาเด็ก) ได้แจ้งว่า ตนมีบุตร 3 คน โดยบุตรคนโต อายุ 24 ปี เป็นบุตรกับสามีเดิม ปัจจุบันรับราชการทหารอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาได้มีสามีใหม่ มีบุตร 2 คน คือ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 7 ปี แฝดพี่ (ผู้ถูกกระทำ) และ ด.ช.ซี (นามสมติ) อายุ 7 ปี (แฝดน้อง) พักอาศัยอยู่บ้านพักสวัสดิการทหาร เลขที่ 130/136 หมู่ 3 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง (บ้านที่เกิดเหตุ) และได้แยกทางกับสามีตั้งแต่คลอดบุตรทั้ง 2 คน หลังจากเกิดเหตุตนคิดว่าไม่มีความปลอดภัย จึงเดินทางมาพักอาศัยกับพี่สาวที่บ้านเลขที่ดังกล่าว โดยประกอบอาชีพรับจ้างซัก-รีด อยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง ร่วมกับพี่สาวชั่วคราวในระหว่างรอการดำเนินเสร็จสิ้น มีรายได้วันละ 300 บาท แต่มีการวางแผนในการประกอบอาชีพในจังหวัดปทุมธานี เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับบุตร มารดามีความประสงค์ขอความช่วยเหลือด้านการศึกษาของเด็ก

นางรุ่งทิวา สุดแดน พมจ.ปทุมธานี ยังกล่าวอีกว่า การดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ได้ให้คำปรึกษาแนะนำในการดูแลเด็กตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และประสาน สพป.ปทุมธานี เขต 2 ในการเข้ารับการศึกษาของเด็กต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ใกล้กับที่พักอาศัยของครอบครัว เพื่อที่จะได้ดูแลเด็กได้อย่างใกล้ชิด จากการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ครอบครัวสามารถให้การดูแลเด็กได้ สภาพแวดล้อมมีความปลอดภัย และมีญาติคอยช่วยเหลือดูแล ด้านสภาพจิตใจเด็กดี เด็กร่าเริง สดใส ไม่อยู่ในภาวะซึมเศร้า แต่จะได้ประสานกับ พด.ปท เพื่อนำเด็กประเมินสภาพจิตใจกับจิตแพทย์ด้วย และจะได้ติดตามการดำเนินคดี ที่จังหวัดตรัง ทั้งนี้ หากครอบครัวมีความประสงค์ขอความช่วยเหลือด้านอื่นๆ ให้ติดต่อกับมายัง สนง.พมจ.ปท.


กำลังโหลดความคิดเห็น