MGR Online - ผู้เสียหายพาบุตรชายร้องกองปราบฯ เอาผิดทหารยศจ่าเอกล่วงละเมิดทางเพศลูกชายฝาแฝดผู้น้องวัย 7 ขวบ ภายในค่ายทหาร จ.ตรัง ต่อมามีนายทหารมาพยายามเจรจาต่อรองขอจ่ายค่าเสียหาย 3 แสนบาท แต่ตนไม่ยอมจึงพากันเข้าแจ้งความ แต่คดีไม่คืบหน้า
วันนี้ (23 ส.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.00 น. นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ พร้อมด้วยนางเอ (นามสมมติ) อายุ 47 ปี ชาว จ.ตรัง และญาติ เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชนะชัย ภูราช รองสารวัตร (สอบสวน) กก.6 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่งยศจ่าสิบเอก สังกัดทหารบก จ.ตรัง ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี หลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศลูกชายฝาแฝดผู้น้องวัย 7 ขวบ ของนางเอ เหตุเกิดที่บ้านพักในค่ายทหารแห่งหนึ่ง จ.ตรัง โดยนำหลักฐานการตรวจร่างกายและเอกสารที่เกี่ยวข้องนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ประกอบการพิจารณา
นางเอกล่าวว่า ตนกับลูกชายฝาแฝดวัย 7 ขวบ อาศัยอยู่ที่บ้านพักในค่ายทหารแห่งหนึ่งใจ จ.ตรัง จนเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา สังเกตเห็นลูกชายฝาแฝดผู้น้องมีอาการผิดปกติเข้าห้องน้ำบ่อยครั้งจึงได้เรียกมาสอบถาม จึงทราบว่าถูกทหารยศจ่าสิบเอกที่เป็นเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันล่วงละเมิดทางเพศ โดยทหารนายดังกล่าวได้แอบมาเรียกลูกชายตนเองออกไปหาบริเวณข้างรั้วบ้าน ก่อนที่จะสั่งให้ถอดกางเกงแล้วกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ นอกจากนี้ เมื่อไปตรวจสอบที่กางเกงที่ลูกชายใส่พบว่ามีคราบน้ำอสุจิติดอยู่ จึงได้รีบพาลูกชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที
นางเอกล่าวต่อว่า ผลตรวจร่างกายแพทย์ระบุว่าที่ทวารหนักมีร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศจริง จึงได้นำหลักฐานไปแจ้งความไว้ที่ค่ายทหารที่ผู้ก่อเหตุสังกัดอยู่เพื่อให้ดำเนินคดี ต่อมาในวันเดียวกันได้มีทหารในสังกัดดังกล่าวมาหาที่บ้านพักเพื่อเจรจาต่อรองโดยขอจ่ายค่าเสียหายจำนวน 3 แสนบาท แต่ทางตนเองไม่รับเนื่องจากอยากให้ดำเนินคดีทางกฎหมาย ในวันถัดมาจึงตัดสินใจไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง เพื่อให้ดำเนินคดีต่อทหารนายนี้ให้ถึงที่สุด
นางเอกล่าวอีกว่า ทหารนายดังกล่าวเคยทำอนาจารลูกชายฝาแฝดผู้น้องคนนี้ที่สระน้ำแห่งหนึ่งใน จ.ตรัง โดยการอมอวัยวะเพศ แต่ตอนนั้นตนเองไม่ได้เอาความเนื่องจากยังไม่ถึงขั้นกระทำชำเรา อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเรื่องตนเองกับลูกได้ย้ายออกจากบ้านพักหลังดังกล่าวมาพักอาศัยอยู่กับญาติที่ จ.ปทุมธานี เพื่อความปลอดภัย
ด้านทนายรณรงค์กล่าวว่า แพทย์ได้มีการระบุที่ค่อนข้างชัดว่าเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศทางทวารหนัก แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า จึงอยากให้กองปราบปรามดำเนินการตรวจสอบสำนวนคดีเพิ่มเติม เนื่องจากมีความเกี่ยวพันกับทหาร เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานก่อนจะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
