xs
xsm
sm
md
lg

ศาลอาญาคดีทุจริต รับฟ้อง 2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ฟอกเงิน อุดหนุนโรงเรียนปริยัติธรรม 10 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศาลอาญาคดีทุจริต รับฟ้อง “2 อดีต ผช.เจ้าอาวาสวัดสระเกศ-คนสนิท” รวม 3 ราย ฐานฟอกเงิน โกงเงินอุดหนุนโรงเรียนปริยัติธรรม 10 ล้าน ทั้งนี้ อดีตพระเถระ และฆราวาส ทั้ง 10 ราย ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และไม่ได้รับการประกันตัวเนื่องจากทำเป็นขบวนการ

วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต 4 ได้นำสำนวนเอกสาร ยื่นฟ้อง นายสังคม สังฆะพัฒน์ อายุ 47 ปี “อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, นายเทอด วงศ์ชอุ่ม อายุ 47 ปี “อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ และ นายทวิช สังข์อยู่ อายุ 43 ปี ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ เป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันฟอกเงินทุจริตเงินงบประมาณสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ในการจัดสรรเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา 10 ล้านบาท ให้วัดสระเกศ จากงบประมาณปี 2557 ทั้งหมด 72 ล้านบาท ทั้งที่วัดสระเกศ ไม่มีโรงเรียนแผนกนี้ จึงไม่มีสิทธิได้รับงบนี้ อันเป็นความผิด พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3, 5, 60 พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 มาตรา 23, 45 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 โดยอดีตพระทั้ง 2 รูป ที่มีอำนาจในการปกครองคณะสงฆ์ ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ร่วมกันลงชื่อเบิกถอนเงินจากบัญชีวัดสระเกศ โดยมี นายทวิช จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับมอบอำนาจ เมื่อปี 2558 ไปใช้ในกิจการอื่น ทั้งที่เป็นงบประมาณสำหรับอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา
โดยท้ายฟ้องอัยการ ขอให้นับโทษจำเลย ต่อจากคดีที่ถูกฟ้องเป็นจำเลนในสำนวนแรก หมายเลขดำ อท.197/2561 ในความผิดฐานร่วมฟอกเงินทุจริตงบประมาณ พศ.เช่นกันด้วย

ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ได้ประทับรับฟ้องคดีจำเลยทั้ง 3 คนในวันนี้ เป็นคดีหมายเลขดำ อท.205/2561 โดยนัดสอบคำให้การจำเลยทั้งสาม ในวันที่ 3 ก.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ซึ่งศาลจะเบิกตัวทั้งสามมาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯที่ถูกคุมขังตั้งแต่ชั้นฝากขังเมื่อต้นปี 2561 มาสอบคำให้การต่อไป

ขณะที่การยื่นฟ้องวันนี้ พนักงานอัยการโจทก์ ได้คัดค้านการให้ประกันตัวทั้งสามด้วย เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก ประกอบกับนายสังคม และเทอด จำเลยที่ 1-2 ก็เคยเป็นอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ จึงเกรงว่าหากปล่อยตัวแล้วจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน กระทั่งสิ้นสุดเวลาทำการศาล จำเลยทั้งสาม ไม่ได้มอบอำนาจบุคคลใด หรือทนายความมายื่นประกันตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ส.ค.61 พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต 1 และ 2 ก็ได้ยื่นฟ้องกลุ่มพระเถระชั้นผู้ใหญ่วัดสระเกศ และ วัดสามพระยา กับฆราวาสไปแล้ว รวม 10 ราย

ประกอบด้วย 1.สำนวนคดีหมายเลขดำ อท.196/2561 ที่ยื่นฟ้อง นายเอื้อน กลิ่นสาลี “อดีตพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม)” อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และอดีตเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และ นายสมทรง อรรถกฤษณ์ “อดีตพระอรรถกิจโสภณ” อดีตเลขาเจ้าคณะกรุงเทพ วัดสามพระยา เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเพื่อให้ความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (ฟ้องอดีตเจ้าอาวาส) และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานฯ, ร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 กรณีร่วมกันฟอกเงิน จากการทุจริตงบประมาณ พศ.ในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม

2. คดีหมายเลขดำ อท.197/2561 ยื่นฟ้อง นายธงชัย สุขโข “อดีตพระพรหมสิทธิ หรือธงชัย สุขญาโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร, นายบุญทวี คำมา “อดีตพระศรีคุณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, นายสมจิตร จันทร์ศรี “อดีตพระครูสิริวิหารการ” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, นายเทอด วงศ์ชอุ่ม “อดีตพระวิจิตรธรรมาภรณ์หรือเจ้าคุณเทอด” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, นายสังคม สังฆะพัฒน์ “อดีตพระเมธีสุทธิกรและอดีตพระราชอุปเสณาภรณ์” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ, น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านร่วมรับโอนเงิน 25 ล้านบาท, นายทวิช สังข์อยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ และ “น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา” (มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์) เป็นจำเลยที่ 1-8 เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงินอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (5), มาตรา 5 (1) (2) (3) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 กรณีร่วมกันฟอกเงิน การทุจริตเงิน งบประมาณ พศ.ในส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนา

โดยปัจจุบันอดีตพระเถระ และฆราวาส ทั้ง 10 ราย ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง เพราะไม่ได้รับการประกันตัว เนื่องจากศาลอาญาคดีทุจริตกลางฯ เห็นว่า พฤติการณ์กระทำความผิดของจำเลยกับพวกมีลักษณะร่วมกันกระทำความผิด เป็นขบวนการโดยแบ่งหน้าที่กันทำ ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน ความเสียหายก็เป็นเงินจำนวนสูง อีกทั้งยังเป็นการกระทบกระเทือนต่อพระพุทธศาสนา พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงและความผิดตามฟ้อง มีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวก็มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยกับพวกจะหลบหนี


กำลังโหลดความคิดเห็น