MGR Online - กองปราบปฏิเสธเป็นคนกลางเคลียร์คดีบิตคอยน์ ผบก.ป.ยัน ร่อนหมายเรียก 8 ผู้เกี่ยวข้องมาสอบแล้ว ด้านน้องชาย “ปริญญา” วิ่งเจรจาตำรวจคนดังฝั่งธนฯ พ่อแฟนสาว “เออาร์นี” เพื่อคืนเงินที่โกงให้
วันนี้ (18 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นายปริญญา จารวิจิต กับพวกร่วมกันหลอกลวง นายเออาร์นี โมตาวา ซาริมา ชาวฟินแลนด์ ขายบิตคอยน์และลงทุนซื้อหุ้นจำนวน 797 ล้านบาทว่า เมื่อวาน (17 ส.ค.) ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนส่งหมายเรียกไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีให้มาพบพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทราบว่า มีผู้เกี่ยวข้องบางรายติดต่อกลับมายังพนักงานสอบสวนบ้างแล้ว และคาดว่า จะเข้าให้ปากคำตามที่นัดหมายไว้ ซึ่งตอนนี้กำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งหลังสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วจึงจะสามารถบอกรายละเอียดเพิ่มเติมได้
ด้านแหล่งข่าวพนักงานสอบสวน ระบุว่า หลังจากมีการออกหมายเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีโกงเงินบิตคอยน์รวม 8 คน มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันที่ 27-28 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ได้มี นายธนะสิทธิ์ จารวิจิต น้องชายของ นายปริญญา ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินที่ยังหลบหนี ติดต่อมายังพนักงานสอบสวนแล้วโดยอ้างว่าขณะนี้กำลังติดต่อ นายปริญญา ให้รีบมาเข้ามอบตัวกับตำรวจและชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เพื่อไม่ให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะบิดามารดาที่ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเพียงแต่ได้รับเงินที่โอนมาในบัญชีเท่านั้น
ทั้งนี้ นายธนะสิทธิ์ พยายามขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยอ้างว่าจะรอให้ นายปริญญา กลับมาก่อนและบิดามารดามีสุขภาพไม่ค่อยดี ซึ่งพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้พยายามชี้แจงว่าการเลื่อนการให้ปากคำออกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะอย่างไรตำรวจก็ต้องสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลบางคนอยู่ดี การรีบเข้าให้ปากคำน่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้งหมดมากกว่าการยืดเวลาออกไป ซึ่งในส่วนนี้ทำให้ นายธนะสิทธิ์ ยืนยันที่จะมาให้ปากคำตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมายไว้ที่กองปราบปราม
แหล่งข่าวระบุด้วยว่า นายธนะสิทธิ์ ยังต้องการที่จะให้ตำรวจกองปราบปรามเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ยคดีที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้กับ นายเออาร์นี ผู้เสียหายชาวฟินแลนด์ แต่คณะพนักงานสอบสวนได้ยืนยันไปตั้งแต่แรกแล้วว่าไม่สามารถเป็นตัวกลางได้ เพราะมีหน้าที่ดำเนินคดีในทางอาญาอย่างเดียว ส่วนการเจรจากันนั้นเป็นเรื่องของคู่กรณีที่ต้องเจรจากันเอง ในส่วนนี้ นายธนะสิทธิ์ รับทราบ และบอกกับพนักงานสอบสวนว่ากำลังติดต่อกับบิดาของแฟนสาวคนไทยของ นายเออาร์นี ซึ่งเป็นตำรวจผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งเชื่อว่าน่าจะตกลงกันได้ในเรื่องของทรัพย์สินที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้