MGR online - ทนายขอความเมตตาศาลเลื่อนสอบคำให้การ “อดีตพระพุทธะอิสระ” คดีร่วมการ์ด กปปส.ทำร้ายตำรวจสันติบาล ขณะแอบเข้ามาในพื้นที่ชุมนุม เหตุป่วยหมอนรองกระดูกรุนแรงต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล ย้ำ “หลวงปู่” ยังไม่ขาดจากพระ เพราะไม่ได้เปล่งวาจาสึก พร้อมจะกลับมาบวชอีกครั้ง
วันนี้ (16 ส.ค.) ที่ห้องเวรชี้ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การ คดีหมายเลขดำ อ.2498/2561 ที่อัยการสำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ อายุ 59 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน ขณะนั้นมีการตั้งเวทีปราศรัยของกลุ่ม กปปส.ที่ ถ.แจ้งวัฒนะ บริเวณหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีจำเลยเป็นหัวหน้าผู้นำกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณเวทีดังกล่าวทั้งหมด โดยจำเลยกับกลุ่มบุคคลไม่ทราบชื่อจำนวนมากกว่า 5 คนขึ้นไป ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเวทีปราศรัยที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ได้บังอาจร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง ร.ต.ต.สมคิด เชยกมล และ ด.ต.วชิรพงศ์ อุ่นนวลบูรพงศ์ ผู้เสียหายที่ 1-2 ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้เข้าไปทำหน้าที่สืบสวนหาข่าว จำเลยกับพวกได้ใช้กำลังจับผู้เสียหายทั้งสองปิดตา มัดมือไพล่หลัง ใช้กำลังประทุษร้ายจนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายที่ 1 ได้รับอันตรายสาหัส กระดูกซี่โครงหักและตับฉีกขาด บาดแผลใช้เวลารักษาตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ผู้เสียหายที่ 2 ได้รับอันตรายแก่กาย มีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่ง ฟันซ้ายล่างหัก ใช้เวลารักษาตัวประมาณ 10 วัน และเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้เสียหายทั้งสองถูกประทุษร้ายสูญหายมูลค่ารวม 60,900 บาท นอกจากนี้ ยังร่วมกันข่มขู่ให้ผู้เสียหายทั้งสองบอกรหัสปลดล็อกโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย และพวกจำเลยยังได้หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้เสียหายทั้งสองไว้เป็นเวลาหลายชั่วโมง เหตุเกิดที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
โดยในวันนี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความและกลุ่มบรรดาลูกศิษย์ประมาณ 20 คน มารอให้กำลังใจอดีตพระพุทธะอิสระ
ก่อนเข้าฟังกระบวนพิจารณาในห้องเวรชี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความและนายประกันของอดีตพระพุทธะอิสระ เปิดเผยว่า ในวันนี้อดีตพระพุทธะอิสระ ไม่ได้เดินทางมาศาล เนื่องจากมีอาการป่วย ที่หมอนรองกระดูกคอเคลื่อน อาการรุนแรง เพราะในช่วงเวลาที่อยู่ในเรือนจำ 84 วัน ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาภายหลังออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ บรรดาลูกศิษย์ได้พาอดีตพระพุทธะอิสระส่งโรงพยาบาลทันที โดยแพทย์วินิจฉัยอาการระบุว่ามีอาการป่วยที่หมอนรองกระดูกรุนแรงและต้องทำการรักษาและพักฟื้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ทำให้วันนี้ไม่สามารถเดินทางมาศาลตามกำหนดนัดได้
นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า วันนี้ตนในฐานะทนายความได้นำใบรับรองแพทย์ที่ระบุอาการป่วยมายื่นต่อศาล เพื่อขอความเมตตาให้เลื่อนนัดสอบคำให้การในคดีทำร้ายร่างกายตำรวจสันติบาลที่อัยการยื่นฟ้อง อดีตพระพุทธะอิสระออกไปก่อน และต้องรอให้แพทย์วินิจฉัยอาการของจำเลยว่า ดีขึ้นพร้อมที่จะมาศาลได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตามในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ มีกำหนดนัดสืบพยานในคดีกบฏ ซึ่งที่ต้องเดินทางมาศาลอยู่แล้ว จึงจะขอความเมตตาต่อศาลให้เลื่อนสอบคำให้การไปช่วงเวลาดังกล่าวได้หรือไม่ แต่ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล
นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า ขณะนี้อดีตพระพุทธะอิสระ ยังคงนุ่งขาวห่มขาว ปฏิบัติตน ตามพระธรรมวินัย ยังไม่ถือว่าขาดจากความเป็นพระเพราะไม่ได้เปล่งวาจาสึกจากความเป็นพระแต่อย่างใด แม้ตามกฎหมายถือว่าได้ขาดจากความเป็นพระแล้ว ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ อดีตพระพุทธะอิสระจะกลับมาบวชอีกครั้ง แต่จะเป็นเมื่อใด ยังไม่สามารถระบุได้
ต่อมาเวลา 10.30 น.นายธีรยุทธ ทนายความกล่าวว่า ศาลได้นั่งบัลลังคพิจารณาถามคำให้การ ตนยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ว่า ท่านป่วยมีอาการหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อน และต้องผ่าตามีอาการตามัวเนื่องจากเคยถูกต่อต่อย จึงขอเลื่อนไปออกไปก่อน ตามคำแนะนำของแพทย ขณะที่ฝ่ายอัยการได้คัดค้าน
ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เลื่อนสอบคำให้การ โดยนัดสอบคำให้การอีกครั้ง 8 ต.ค.นี้ และกำชับให้พาจำเลยมาศาลตามนัดอย่างเคร่งครัด
