รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับกลุ่มชายฉกรรจ์ตรวจค้นรถชาวบ้าน จ.ปราจีนบุรี เป็นตำรวจจริง สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันแล้ว พร้อมเด้งไปช่วยราชการที่ ศปก.เพื่อรอผลการสอบสวน
วันนี้ (14 ส.ค.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีปรากฏคลิปชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจสันติบาลค้นรถ ตรวจบัตรประชาชนของชาวบ้านที่ตลาด 304 จ.ปราจีนบุรี โดยอ้างว่าขอตรวจสอบผู้ต้องสงสัยปล่อยเงินกู้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาลจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ว่า จากการตรวจสอบยืนยันว่าเป็นข้าราชการตำรวจจริงทั้ง 2 นาย ขณะนี้ต้นสังกัดทั้ง 2 นาย คือ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อฝค.) ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริงหรือไม่ รวมทั้งได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ ส่วนพลเรือนอีกรายให้ตรวจสอบว่าเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร โดยให้รายงานผลให้ทราบภายใน 7 วัน โดยระหว่างการตั้งกรรมการสอบสวนได้มีคำสั่งให้ตำรวจทั้ง 2 นายไปช่วยราชการที่ ศปก.ส่วนหน้าของหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า จะต้องให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย แต่หากผลการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดจริง ส่อเจตนาในทางเรียกรับผลประโยชน์จะต้องมีการดำเนินการทางวินัยและอาญาอย่างเด็ดขาด ขอประชาชนมั่นใจได้ว่าไม่มีการปกป้องข้าราชการตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมาในเวลา 3-4 ปี สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงโทษตำรวจที่กระทำผิดทั้งวินัยและอาญา มีโทษทั้งให้ออก ไล่ออกจากตำแหน่งหลายนาย
