“ฝนตกทางโน้น หนาวถึงคนทางนี้” หลังไอ้อ้วน บางลา ก่อคดีสะเทือนขวัญจนมีการขุดคุ้ยประวัติเก่ารวมทั้งคดีในอดีตที่มีความไม่ชอบมาพากลสถานการณ์เมืองท่องเที่ยวที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์คือเกาะภูเก็ต กำลังเดือดปุดๆ มีการกวาดล้างบรรดา “หมาเลี้ยง”ของเจ้าพ่อ-มาเฟียตัวจริงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ล่าสุดฝ่ายปกครองเข้าจับกุม “ขาใหญ่”รายหนึ่งชื่อนายสายัณห์ ชื่อเล่นอักษรย่อ “ห” เป็นอดีตคนขับรถของนักธุรกิจคนดังของภูเก็ต ในข้อหาทำร้ายร่างกาย หน่วงเหนี่ยวกักขัง มีเครื่องยุทธภัณฑ์(เสื้อเกราะ)ไว้ในครอบครอง และเสพยาบ้าก่อนส่งมอบให้ตำรวจท้องที่แห่งหนึ่งดำเนินคดีในจังหวัดภูเก็ต นายสายัณห์ คือขาใหญ่รายหนึ่งของเกาะภูเก็ต อาศัยร่วมเงาลูกพี่มีกิจการทั้งสีขาวและสีเทาเข้มเป็นของตัวเอง ก่อนเกิดเรื่องได้ทำร้ายภรรยาคนที่ 4 และจับขังไว้ซึ่งเป็นข้าราชการอยู่ในจังหวัดมีฐานะความเป็นอยู่ค่อนข้างดี เมื่อหนีออกมาได้จึงไปขอความช่วยเหลือจากฝ่ายปกครอง เพราะไม่แน่ใจว่าตำรวจจะสามารถเป็นที่พึ่งได้
มีรายงานว่าหลังนายสายัณห์ ถูกจับได้พยายามติดต่อให้เจ้านายและสมัครพรรคพวกช่วยเหลือประกันตัวแต่ยังไม่สำเร็จ แหล่งข่าวระบุว่าอิทธิพลภายในเกาะภูเก็ต นั้นมาจากเรื่องผลประโยชน์ล้วนๆ และความไม่ชอบมาพากล ทั้งหลายก็มาจากเหตุผลนี้เพียงเหตุผลเดียวซึ่งในการปราบปราม หรือจัดระเบียบให้อยู่หมัดนั้นเป็นไปได้ยากเพราะหลังผู้ประกอบการ หลังนักเลงตั้งแต่ตัวเล็กยันตัวใหญ่ล้วนมีเงาของ “มาเฟีย”ตัวจริงทาบเป็นรังสีคุ้มหัวอยู่ทั้งสิ้น
ภาพแห่งความวุ่นวาย อิทธิพล การแสวงหาผลประโยชน์แบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาจึงมีให้เห็นเป็นปกติเพราะที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่อุดมไปด้วยผลประโยชน์...แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกันกันกระเป๋าตุงทุกฝ่าย