บิ๊กโจ๊ก ร่วม กสทช. บุกจับกุมเครื่องรับ-ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อตั้งเว็บไซต์รับพนันฟุตบอลออนไลน์ ย่านลำลูกกา ของกลางเครื่องวิทยุคมนาคม และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมูลค่ากว่า 1.5 ล้าน
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2561 “ยุทธการสยบพนันบอล 2018” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผอ.สำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมสำนักงาน กสทช. ได้เดินทางมาที่ สภ.คูคต ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะนิชย์ รอง ผบก.ปทุมธานี พ.ต.อ.สมิทธิ สารอต ผกก.สภ.คูคต พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้ร่วมแถลงข่าวจับกุมเครื่องรับ-ส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางเครื่องรับ-ส่งสัญณาณอินเทอร์เน็ต จานดาวเทียมจำนวนหนึ่ง
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล และทีมงาน บช.ทท. ตำรวจ191 ตำรวจ สภ.แม่สาย และ ศปอส.ตร.ได้ร่วมกับสำนักงานการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และเจ้าหน้าที่ทหาร ตรวจค้นตรวจยึดเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้สำหรับลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอลผ่านทางออนไลน์ โดยใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ประเภท Access point ตั้งเป็นสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต บริเวณชายแดน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อตั้งเว็บไซต์รับพนันฟุตบอลออนไลน์ โดยได้ตรวจยึดของกลางเป็นจำนวนมาก จากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า อุปกรณ์ดังกล่าวส่งมาจากนายบรรเทิง ทองลำ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดอุตรดิตถ์ (ผู้ต้องหา) บริษัท ซีค เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จำกัด ตั้งร้านจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องวิทยุคมนาคมและอุปกรณ์ต่อพ่วง ชื่อร้าน wifi move ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้า เซียร์รังสิต จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่ร้าน wifi move ดังกล่าว พบเครื่องวิทยุคมนาคม ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 24 รายการ รวม 309 เครื่อง/ชุด จากนั้น จึงได้ขยายผลเข้าตรวจสอบที่บริษัท ซีค เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป จํากัด บ้านเลขที่ 99/128 ม.1 ต.คูคต อ.ลําลูกกา จ.ปทุมธานี พบเครื่องวิทยุคมนาคม ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 5 รายการ รวม 104 เครื่อง/ชุด
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดเครื่องวิทยุคมนาคม ซึ่งมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยมิชอบ รวมจำนวน 413 เครื่อง/ชุด รวมของกลางมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท โดยแจ้งข้อกล่าวหา “มี และค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต นำส่งตรวจที่ สำนักงานการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนที่อยู่ตามชายแดนเพื่อนบ้านที่มีบุคคลไปเช่าพื้นที่ตั้งเสาสัญญาณรับ-ส่งอินเทอร์เน็ต และให้ค่าเช่าจำนวน 20,000 บาทนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ซึ่งขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่การกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้ติดตามจับกุมอยู่ทกวัน และมีร้านขายอุปกรณ์รับ-ส่งอินเทอร์เน็ต อีกเป็นจำนวนมาก ที่ยังทำผิดกฎหมายอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วย กสทช. และจะได้ติดตามจับมาดำเนินคดีต่อไป