xs
xsm
sm
md
lg

“จักรทิพย์” แถลงจับแก๊งค้ายานรก 5 คดี ยึดกัญชา 700 กก.รวมมูลค่ากว่า 71 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผบ.ตร.แถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญจำนวน 5 คดี ได้ผู้ต้องหารวม 9 คน ขนกัญชา 700 กิโลกรัม จากแนวชายแดนด้านจังหวัดนครพนมเข้า กทม. ยังจับกุมโคคาอีน 2,785 กรัม ยาบ้า 306,000 เม็ด ไอซ์ 2 กิโลกรัม รวมมูลค่ากว่า 71 ล้านบาท



วันนี้ (27 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ถนนวิภาวดีรังสิต พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 5 คดี ผู้ต้องหา 9 คน พร้อมของกลาง กัญชา 700 กิโลกรัม โคคาอีน 2,785 กรัม ยาบ้า 306,000 เม็ด ไอซ์ 2 กิโลกรัม รวมมูลค่า 71,395,000 บาท

โดยคดีแรก เมื่อวันที่วันที่ 25 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.2.บช.ปส. ร่วมกับ บก.ขส.บช.ปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ทหาร ศอ.ปส.ชอน.บ.ทำการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 คน คือ นายอานนธชัย หรือแมว อ่อนวรรณะ อายุ 38 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี, นายศักดา หิรัญเกื้อ อายุ 37 ปี ชาว จ.จันทบุรี, น.ส.สังวาล นึกชัยภูมิ อายุ 35 ปี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 600 แท่ง น้ำหนักประมาณ 600 กิโลกรัม รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว, รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีเทา สามารถจับกุมได้ที่บริเวณภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.มอดินแดง ถนนถีนานนท์ ต.โพนทอง อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์ ต่อเนื่องห้องพักหมายเลข B5 My Loft (มายลอฟต์) รีสอร์ท ต.โพนทอง อ.เมืองฯ จ.กาฬสินธุ์

โดยก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนด้านจังหวัดนครพนม นำส่งให้ลูกค้าเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อซีวิค และรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ เป็นพาหนะ ต่อมาเวลา 01.40 น.ของวันที่ 25 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบรถยนต์ทั้งสองคันขับตามกันมาจากทางด้าน อ.สมเด็จ มุ่งหน้าไปยัง จ.กาฬสินธุ์ ขณะขับมาที่บริเวณพื้นที่ ต.โพนทอง อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ แล้วเข้าไปใน “มายลอฟต์ รีสอร์ท” จากนั้นได้ขับออกไปแล้วจอดอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.มอดินแดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไป แล้วแสดงตัวขอตรวจค้นรถยนต์ ปรากฏว่าพบกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 600 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถยนต์คันทะเบียน 5 กฐ 2792 กทม. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง และจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามคนนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ขส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุม นายสมร ขุนทุม อายุ 43 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี ในข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนี มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมของกลางกัญชาแห้งอัดแท่ง จำนวน 100 แท่ง น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว สามารถจับกุมได้ที่บริเวณด่านเก็บเงินธัญบุรี ถนนทางพิเศษกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันออก (หมายเลข 9) ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับรายงานจากสายลับว่ามีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะลับลอบขนยาเสพติดทางจังหวัดนครพนม มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยใช้รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ และรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ไทรทัน เป็นพาหนะ เมื่อถึงเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบรถยนต์ทั้งสองคันดังกล่าว ขับมาถึงบริเวณถนนวงแหวนตะวันออก (กาญจนาภิเษก หมายเลข 9) มุ่งหน้าบางนา-ชลบุรี กม.15 มุ่งหน้า กทม.เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามสกัดจับรถยนต์กระบะมิตซูบิชิสีขาวไว้ได้ และขอตรวจค้นรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบกัญชาแห้งอัดแท่งน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดไว้เป็นของกลางและจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

คดีต่อมา เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, เจ้าหน้าที่ศุลกากร, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส., ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ภายใต้ความร่วมมือโครงการ AITF ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญกลุ่มแอฟริกันตะวันตก น.ส.เฟธ อิเกซา คิดาเก (FAITH IGAIZA KIDAKE) อายุ 24 ปี ชาวเคนยา ในข้อหานำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,785 กรัม โดยมีรายละเอียดดังนี้ พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน (COCAINE) ลักษณะเป็นผงสีขาว บรรจุอยู่ภายในถุงพลาสติกพันทับด้วยเทปกาวสีน้ำตาล จำนวน 1 แผ่น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,785 กรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในช่องลับของกระเป๋าเป้ สีน้ำเงิน-ดำ ยี่ห้อ LOEWALPINE บริเวณแผ่นรองกระเป๋าด้านหลัง กระเป๋าเป้ สีน้ำเงิน-ดำ ยี่ห้อ LOEWALPINE จำนวน 1 ใบ สามารถจับกุมได้ที่บริเวณช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดงของศุลกากร (ช่องเขียว) ฝั่งตะวันออก โซน B ชั้น 2 ห้องโถงผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. ต่อเนื่องถึงเวลา 21.00 น.ของวันที่ 26 มิถุนายน

ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมภายใต้ความร่วมมือตามโครงการ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (AITF) ได้ร่วมกันสืบสวนเครือข่ายกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดระหว่างประเทศ เดินทางมากับเที่ยวบินกลุ่มเสี่ยง วันที่ 26 มิถุนายน เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมได้ไปปฏิบัติการสังเกตการณ์พบหญิงมีลักษณะต้องสงสัยลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร เดินทางมากับ สายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส (ETHIOPIAN AIRLINES) เที่ยวบินที่ ET628 จึงได้ทำการติดตามพฤติการณ์ จนเดินถึงช่องตรวจของศุลกากรไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (ช่องเขียว) ฝั่งตะวันออกโซน B ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอให้หญิงต้องสงสัยนำสัมภาระเข้าเครื่องเอกซเรย์ จากการวิเคราะห์ภาพถ่ายเอกซเรย์เบื้องต้นพบว่ามีสิ่งผิดปกติอยู่ภายในกระเป๋าเป้ เจ้าหน้าที่จึงขอทำการตรวจค้นโดยละเอียดด้วยการเปิดตรวจ พร้อมสัมภาษณ์ ตรวจสอบเอกสารทราบชื่อว่า น.ส.เฟธ อิเกซา คิดาเก้ อายุ 24 ปี ชาวเคนยา ซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบินเอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส (ETHIOPIAN AIRLINES) เที่ยวบินที่ ET628 ของวันที่ 25 มิถุนายน 2561 เดินทางมาจากแอดดิสอาบาบา (ADDIS ABABA) ประเทศเอธิโอเปีย (ETHIOPIA) ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ราชอาณาจักรไทย ตรวจสอบพบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะเป็นแผ่นแข็งห่อหุ้มด้วยพลาสติกพันด้วยเทปกาวสีน้ำตาล ภายในบรรจุผงสีขาวซุกซ่อนอยู่บริเวณแผ่นรองกระเป๋าเป้ด้านหลัง จึงได้ทดสอบผงสีขาวต้องสงสัยด้วยน้ำยาทดสอบเบื้องต้นต่อหน้าเจ้าของผู้ครอบครอง ให้ผลเป็นยาเสพติด (โคคาอีน) จึงยึดไว้เป็นของกลาง จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ รวบรวมหลักฐานนำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.1 บช.ปส.ดำเนินคดีต่อไป

ส่วนคดีที่ 4 เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพร กก.2 บก.ปส.4 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.414 ร่วมกันจับกุม นายพิเชษฐ์ อึ้งเจริญ อายุ 26 ปี ที่อยู่ 67/16 ม.9 ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม, น.ส.ไพรินทร์ อินทร์สวัสดิ์ อายุ 35 ปี ที่อยู่ 399/1 ม.1 ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี, นายชัชวาล แจ้งอรุณ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ที่ 5 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี และ น.ส.อำพาพิน โสมกลิ้ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/5 หมู่ที่ 5 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 106,000 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2 กิโลกรัม รถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน วณ 397 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง กระเป๋าเดินทางแบบลากมีล้อเลื่อน จำนวน 2 ใบ โดยจับกุมได้บริเวณที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หมู่ที่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร (ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 451-452) เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. (23 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดยก่อนการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจยานพาหนะชุมพรได้สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจบริเวณริมถนนเพชรเกษม (กรุงเทพฯ-ชุมพร) หน้าที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะชุมพร เพื่อทำการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามเส้ทางหลัก ขณะปฏิบัติหน้าที่พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน วณ 397 กรุงเทพมหานคร ขับผ่านมาตามถนน โดยมีนายพิเชษฐ์ อึ้งเจริญ เป็นผู้ขับขี่ และมีน.ส.ไพรินทร์ อินทร์สวัสดิ์ นั่งโดยสารมาด้วย ขณะกำลังจะผ่านด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงเรียกให้หยุด เพื่อตรวจค้นสิ่งของผิดกฎหมาย ผลการตรวจค้นปรากฏว่าพบยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง สีชมพู วางอยู่บริเวณเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังของรถยนต์, นอกจากนี้ยังพบยาบ้าจำนวน 4,000 เม็ด, ไอซ์ จำนวน 2 ถุง น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางสีดำวางอยู่บริเวณช่องเก็บสัมภาระท้ายรถยนต์ นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.ไพรินทร์ อินทร์สวัสดิ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ จ.109/2560 ลงวันที่ 28 เมษายน 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย) และมีการกระทำเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย) และมีการกระทำเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน แจ้งข้อกล่าวหาสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า และไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย)และมีการกระทำเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันเพิ่มเติมต่อ น.ส.ไพรินทร์ อินทร์สวัสดิ์ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 ดำเนินคดี

คดีสุดท้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 บช.ปส. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 ตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 200,000 เม็ด โดยตรวจยึดได้บริเวณภายในหมู่บ้านริมกก หมู่ที่ 4 ต.แม่ยาว อ.เมืองฯ จ.เชียงราย เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 ได้ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามพฤติการณ์กลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ราชบุรี จนกระทั่งวันที่ 21 มิ.ย. กลุ่มนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.ราชบุรี ได้เดินทางไปยังหมู่บ้านริมกก หมู่ที่ 4 ต.แม่ยาว อ.เมืองฯ จ.เชียงราย เพื่อไปนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ จ.ราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 จึงได้ประสานงานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 และเดินทางไปเพื่อทำการสืบสวนและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากนักค้ายาเสพติดกลุ่มดังกล่าว จนกระทั่งวันที่ 23 มิ.ย. เวลาประมาณ 22.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังลวดตระเวนอยู่นั้นพบรถยนต์คันหนึ่งนำกระเป๋าใบใหญ่มาวางทิ้งไว้ข้างถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์อยู่สักพักหนึ่ง ไม่เห็นมีผู้ใดมาหยิบกระเป๋าดังกล่าวจึงได้เข้าไปทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบยาบ้าจำนวน 200,000 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดส่ง พงส.บก.ปส.4 บช.ปส.ดำเนินคดี และทำการสืบสวนขยายผลเพื่อทำการจับกุมเจ้าของยาเสพติดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น