รอง ผบช.ท่องเที่ยว แถลงจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาชาวจีนได้คาโรงแรมย่านสัมพันธวงศ์ พร้อมของกลาง ธนบัตรสกุลต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 4 แสนบาท ที่แอบขโมยไปจากกระเป๋าผู้โดยสารในช่องเก็บภาระบนเครื่องบิน สารภาพทำมาแล้วหลายครั้ง หลังได้เงินไปกบดานที่ประเทศจีน แล้วกลับมาก่อเหตุอีก
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ที่ห้องประชุม สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย นายกิตติพงษ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัว 3 ผู้ต้องหาชาวจีน ร่วมกันลักทรัพย์ภายในอากาศยาน ประกอบด้วย นายชิน ยวี อายุ 30 ปี นายซินฉวี่ หวัง อายุ 49 ปี และ นายลี่เชียน หวัง อายุ 41 ปี ทั้งหมดสัญชาติจีน พร้อมด้วยของกลาง ธนบัตรสกุลดอลลาร์สหรัฐฯฉบับละ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯจำนวน 52 ใบ ธนยงบัตรสกุลยูโรฉบับละ 5 ยูโร จำนวน 1 ใบ และฉบับละ 50 ยูโร จำนวน 5 ใบ รวมมูลค่าเป็นเงินไทยกว่า 4 แสนบาท โดยจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ที่โรงแรมนิวเอ็มไพร์โฮเต็ล แขวงและเขตสัมพนธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าประจำเที่ยวบิน พีจี 930 ที่จอดอยู่ในช่องจอดทางเทียบเครื่องบิน Bus Gate ผู้โดยสารขาเข้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ได้รับแจ้งผู้โดยสารชื่อนายเกิ่ง เหา ฉวี สัญชาติ ไต้หวัน และ นายเทียนรุ่น จิ่ง สัญชาติจีน ว่า ทรัพย์สินซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ และ สกุลยูโร ที่เก็บไว้ในกระเป๋าสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องมาด้วยและวางอยู่บนชั้นวางสัมภาระเหนือศีรษะ ซึ่งของ นายเกิ่ง เหา ฉวี เงินไทยได้หายไปจำนวน 15,000 บาท และของนายเทียน รุ่ง จิ่ง เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯหายไปจำนวน 10,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ประจำสายการบินดังกล่าวจึงได้พาผู้เสียทั้งสองมาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ โดยได้เบาะแสจากพนักงานประจำเครื่องว่าว่ามีนักท่องเที่ยวจำนวนชาวจีนจำนวน 3 คนที่อยู่บนเครื่องท่าทางต้องสงสัย เนื่องจากระหว่างอยู่บนเครื่องชายต้องสงสัยทั้ง 3 ลุกขึ้นไปเปิดชั้นเก็บสัมภาระเหนือศีรษะหลายครั้ง จึงตรวจสอบทราบชื่อนายชิน ยวี / นายซินฉวี่ หวัง และนายลี่เชียน หวัง จึงได้กระจายกำลังออกสืบสวนจนกระทั้งทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสามรายได้ไปเปิดโรงแรมนิวเอ็มไพร์โฮเต็ล แขวงและเขตสัมพันธวงศ์ เพื่อพักอาศัย จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมตัวเอาไว้ได้พร้อมของกลาง ก่อนคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ
จากการสอบสวนผู้ต้องทั้งสาม ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริงโดยทำมาแล้วหลายครั้ง หลังก่อเหตุได้ก็จะพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยสักระยะหนึ่งก่อนเดินทางไปกบดานที่ประเทศจีน และจะกลับมาก่อเหตุอีก โดยเลือกเหยื่อที่พอมีฐานะแต่งตัวภูมิฐานและถือกระเป๋าสัมภาระขึ้นมาบนเครื่องด้วย จึงลงมือก่อเหตุขณะที่เจ้าของกระเป๋าเผลอ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันลักทรัพย์ในอากาศยาน ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป