เจ้าของร้านทองแจ้งตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีลูกจ้างชาวพม่า ทำงานแม่บ้านได้ 2 เดือน ขโมยสร้อยข้อมือทองคำ 3 บาทไปซ่อนไว้ในห้องน้ำ กล้องวงจรปิดจับภาพชัด แต่ผู้ต้องหายังปากแข็ง
เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 61 ร.ต.อ.กันตพัฒน์ ชาวดอน รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้ง จาก นางอริสราภรณ์ เลียวตระกูล อายุ 57 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราช ปากน้ำ สาขา 1 ตั้งอยู่ 3 คูหา เลขที่ 79-81 ถนนศรีสมุทร ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ หลังจากถูกลูกจ้างซึ่งเป็นชาวพม่าขโมยสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาทภายในร้านไป หลังรับแจ้งจึงนำกำลังไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 คูหาในร้านพบเจ้าหน้าที่สายตรวจคุมตัวลูกจ้างที่ก่อเหตุไว้แล้ว ทราบชื่อต่อมาคือนางตานวิน อายุ 39 ปี ชาวพม่า พร้อมด้วยของกลางเป็นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 3 บาท ซึ่งถูกนำไปซ้อนไว้ในห้องน้ำ ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวลูกจ้างคนดังกล่าวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ
จากการสอบถามนางอริสราภรณ์ เจ้าของร้านทอง กล่าวว่า สำหรับลูกจ้างคนดังกล่าวตนรับเข้ามาทำงาน ตำแหน่งแม่บ้านได้ประมาณ 2 เดือน ระหว่างมาทำงานก็ปกติดี จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากปิดร้านตนเองได้ตรวจสอบบัญชีการขายทองประจำวัน กลับพบว่าสร้อยคอมือหนัก 3 บาท หายไป 1 เส้น จากนั้นจึงสอบถามทางพนักงานขายหน้าร้านว่าได้จำหน่ายออกไปให้ลูกค้าหรือไม่ ทั้งหมดต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้ขายออกไป จึงได้พยายามตรวจสอบอยู่หลายวันก็ไม่พบว่าสร้อยข้อมือหายไปไหน คิดว่าอาจจะถูกลูกค้าขโมยไป ด้วยความสงสัยวันนี้หลังจากว่างจากภารกิจจึงได้ไปไล่เช็กกล้องวงจรปิดย้อนหลังดู กระทั่งพบเห็นความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วงเช้าวันจันทร์ โดยในภาพวงจรปิดนั้นได้บันทึกภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด โดยร้ายไม่ใช่ใครที่ไหน คือนางตางวิน ลูกน้องในร้านนั้นเอง จึงได้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาจับกุมเพื่อไปดำเนินคดี
สำหรับพฤติกรรมตามภาพวงจรปิด ระหว่างที่นางตานวินได้เข้าไปช่วยพนักงานขายทองยกถาดสร้อยข้อมือหนัก 3 บาท ออกจากตู้เซฟเพื่อมาเรียงที่ตู้โชว์หน้าร้าน ระหว่างนั้นได้ลงมือใช้นิ้วเกี่ยวสร้อยข้อมือออกจากถาด ก่อนจะใช่นิ้วดีดให้ตกลงไปที่พื้น และพยายามปิดบังด้วยการใช้เท้าเขี่ยให้หลบไปที่มุมเคาน์เตอร์ และยิ่งกว่านั้นมีการถอดรองเท้าบังสร้อยข้อมือทองคำซึ่งตกอยู่ที่พื้นเพื่อบังสายตาคนอื่น ก่อนจะนำถังขยะมาวางใกล้ๆ และสบโอกาสหยิบสร้อยใส่ถังขยะออกไปจากจุดเกิดเหตุอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ก่อนที่จะนำทองไปซ่อนไว้ในห้องน้ำของร้าน
ทั้งนี้ เจ้าของร้านทองยังกล่าวอีกว่า สำหรับเหตุการณ์ลูกจ้างขโมยทองในร้านเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งจนต้องเปลี่ยนลูกน้องมาหลายคนแล้ว ตนเองก็เข้าใจว่าเงินทองนั้นไม่เข้าใครออกใคร เมื่อเราทำธุรกิจนี้แล้วจึงจำเป็นต้องมีความรอบคอบและตรวจสอบทองอยู่ทุกวันเพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง
เบื้องต้น นางตานวินยังให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง โดยอ้างว่าสิ่งที่ตนเก็บไปไม่ใช่ทองจึงได้เก็บใส่ถังขยะไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากหลักฐานจากกล้องวงจรปิดนั้นชัดเจน จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง พร้อมกับควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ดำเนินคดีต่อไป