MGR Online - ตำรวจร่วมกับกรมศิลปากร ประกาศหาเจ้าของพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ คาดสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ ๓ และรัชกาลที่ ๕ ถูกขโมยมาจากวัดในต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อ 39 ปีที่แล้ว
วันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 13.50 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวมกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม และนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมกันประชาสัมพันธ์หาเจ้าของพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตรวจยึดได้เป็นของกลางเมื่อ 39 ปีก่อน
พล.ต.ต.สมพงษ์กล่าวว่า เมื่อ 39 ปีก่อนมีคนร้ายนำพระพุทธรูปใส่กระสอบข้าวสารลงเรือมาขึ้นที่ท่าพระจันทร์เพื่อนำพระพุทธรูปมาขาย แต่คนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจึงทิ้งกระสอบพระพุทธรูปแล้วกระโดดลงแม่น้ำเจ้าพระยาไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำพระพุทธรูปมาเก็บไว้ที่ สน.ชนะสงคราม แต่ผ่านมาเกือบ 40 ปี ก็ยังไม่มีผู้มาแสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายจะแอบขโมยพระพุทธรูปมาจากวัดในต่างจังหวัด ก่อนจะล่องเรือมาขายที่กรุงเทพมหานคร
ด้าน น.ส.พัชรินทร์ สุขประมูล ภัณฑารักษ์เชี่ยวชาญ กรมศิลปากร ระบุว่า พระพุทธรูป 3 องค์ ประกอบด้วย องค์แรกเป็นพระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย มีจีวรลายดอกพิกุล หน้าตัก 41 เซนติเมตร ความสูง 76.5 เซนติเมตร คาดว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๕
ส่วนองค์ที่ 2 และ 3 เป็นพระพุทธรูปยืน ปางห้ามสมุทร จีวรลายดอกพิกุล ส่วนอีกองค์เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ เอกลักษณ์ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ คาดว่าสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ ๓ เป็นต้นมา ส่วนใหญ่จะพบเป็นพระประจำวัด ไม่ใช่พระบูชาประจำบ้าน และเป็นของแท้ดั้งเดิม ไม่ใช่พระพุทธรูปทำใหม่ ทั้งนี้ หากพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ยังอยู่ในวัดจะได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุโบราณอย่างแน่นอน
สำหรับประชาชนคนใดหรือวัดใดที่มีหลักฐานว่าเป็นเจ้าของพระพุทธรูปเหล่านี้ สามารถนำหลักฐานมาแสดงขอรับพระพุทธรูปคืนได้ที่ สน.ชนะสงคราม แต่หากไม่มีผู้มาแสดงความเป็นเจ้าของภายใน 30 วัน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมอบให้กรมศิลปากรนำไปขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติต่อไป