ไม่รอด ตร.อดีตเด็กส่งของสำเพ็ง เปิดเฟซบุ๊กตุ๋นเหยื่อซื้อโน๊ตบุ๊ก-ทีวี ราคาถูก ก่อนเชิดเงินหนี

MGR Online - อดีตเด็กส่งของสำเพ็ง เปิดเฟซบุ๊กขายโน้ตบุ๊ก - ทีวี ของมือสองราคาถูกไม่ถึง 4 พันบาท สุดท้ายเหยื่อโดนแหกตาหลายราย หลงกลโอนเงินให้เนื่องจากใช้บัตรประชาชนจริงในการยืนยันตัว ก่อนเชิดเงิน ปิดเฟซบุ๊ก เปลี่ยนเบอร์มือถือ รวมมูลค่าความเสียหาย 100,000 บาท

วันนี้ (6 พ.ค.) ที่ สน.หนองค้างพลู พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤติเดช จันทร์เพชร รอง ผกก.สส.สน.หนองค้างพลู และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายสุวัฒชัย โสเก อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามจับศาลจังหวัดตลิ่งชัน เลขที่ จ.47/2561 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 61 ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 22 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี

พ.ต.อ.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง รอง ผบก.น.9 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา นายพงศกร อุทารจิตต์ ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้ทำการเปิดเฟซบุ๊กในเพจ “มาเก็ตเพจ การขายของ” ได้พบเฟซบุ๊กชื่อ “คนรักครอบครัว” ประกาศขายเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมือสอง ยี่ห้อเอซุส ในราคา 3,600 บาท ผู้เสียหายเกิดความสนใจจึงติดต่อสอบถามรายละเอียดเพื่อขอซื้อ หลังจากที่ต่อลงซื้อขายกันแล้วนั้น เจ้าของเฟซบุ๊กชื่อคนรักครอบครัวซึ่งเป็นผู้ขาย ได้ทำการส่งเลขบัญชีของธนาคารกรุงไทยและรูปบัตรประชาชน โดยเอกสารทั้งสองระบุตัวตนเป็นชื่อนายสุวัฒชัย โสเก (ผู้ต้องหา) ทำให้ผูเสียหายตายใจและหลงเชื่อว่าผู้ขายมีตัวตนยืนยันจริง จึงทำการโอนเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งเข้าบัญชีของผู้ต้องหาในจำนวนเงิน 3,600 บาท จากนั้นผู้ต้องหาได้แจ้งกับผู้เสียหาว่าจะส่งของให้ในวันรุ่งขึ้น แต่ผลปรากฏว่า พอวันรุ่งขึ้นผูเสียหาไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาที่นัดส่งของกันไม่ได้อีกเลย จึงเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ ทำงานเป็นเด็กส่งของอยู่ย่านสำเพ็ง ประกอบกับเคยขายของมือสองผ่านทางเฟซบุ๊ก แต่ตอนหลังเกิดตกงานจึงคิดหลอกเอาเงินกับพวกชอบซื้อของมือสองในเฟซบุ๊ก วิธีการก็จะหาภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ ทีวี คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก เครื่องเล่นเกม มาลงประกาศขายในเพจจำพวกซื้อขายของมือสอง พอมีเหยื่อหลงเชื่อก็จะนัดซื้อขาย แต่จะให้เหยื่อโอนเงินเข้ามาก่อน และจะส่งสินค้าตามไป โดยส่วนมากเหยื่อก็จะหลงเชื่อ เพราะเราเอาบัตรประชาชนเป็นหลักฐานยืนยันว่า เรามีตัวตนจริง พอเหยื่อโอนเงินเข้ามา เราก็เปลี่ยนเฟซบุ๊กเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หลบหนี และก็ไปก่อเหตุกับเหยื่อรายใหม่อีกด้วยวิธีการเดิม

รอง ผบก.น.9 กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายกว่า 32 ราย ยืนยันว่า โดนนายสุวัฒชัยฉ้อโกง โดยส่วนใหญ่จะเป็นคดีความร้องทุกข์อยู่ในพื้นที่ นครบาล, ภ.1, ภ.3, ภ.4, ภ.7 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 100,000 บาท ขณะเดียวกัน ขอฝากไปถึงประชาชนที่คิดว่าเคยโดนนายสุวัฒชัยฉ้อโกงในลักษณะนี้ ให้มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หนองค้างพลู เพื่อจะได้ทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมและดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป