โฆษกศาลยุติธรรมเเจง ศาลให้ประกัน “ติ๊งค์ - ลูกเลี้ยงกรณ์” ครอบครองโคเคน เทียบเคียงคดี “ยู่ยี่” ที่นำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร จึงถูกตัดสินโทษจำคุก 15 ปี ส่วนม็อบคนอยากเลือกตั้ง ชู 3 นิ้ว เข้าข่ายคดีมั่นคง วงเงินประกันสูงกว่า
วันนี้ (5 พ.ค.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มบุคคลโพสต์แชร์ข้อความและภาพโจมตีศาล กรณีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุญาตให้ประกัน นายพันธิตร หรือ ติ๊งค์ มหาเปารยะ อายุ 26 ปี บุตรชายของ นางวรกร จาติกวณิช ภรรยาของ นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.คลัง และ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ คดีครอบครองโคเคน ปริมาณ 0.92 กรัม โดยตีราคาประกัน 10,000 บาท ว่า
กรณีที่กลุ่มโซเชี่ยลเผยเเพร่ข้อความที่มีลักษณะโจมตี ว่า ศาลให้ประกัน นายพันธิตร คดีครอบครองโคเคน น้ำหนัก 0.92 กรัม เเต่กลับไม่ให้ประกัน นางชัชชญา เกวสต้า รามอส หรือ ยู่ยี่ อลิสา อินทุสมิต อายุ 44 ปี อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง ที่ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับกุมที่สนามบินดอนเมือง 10 พ.ย. 2555 โดยพบว่า นางชัชชญา ครอบครองโคเคน 251 มิลลิกรัม ความจริงคือ ในชั้นฝากขังเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2555 ในคดีครอบครองโคเคนของนางชัชชญา ศาลอาญาก็ได้มีคำสั่งให้ปล่อยตัวชั่วคราว นางชัชชญา หรือ ยู่ยี่ ในวงเงิน 10,000 บาท เช่นเดียวกับนายพันธิตร
แต่ต่อมาพนักงานอัยการฟ้อง นางชัชชญา หรือ ยู่ยี่ ในข้อหานำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มมาอีกข้อหา ซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่าข้อหามียาเสพติดให้โทษในประเภท 2 (โคเคน) ไว้ในครอบครองเพียงข้อหาเดียว โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก ยู่ยี่ 15 ปี ปรับ 1.5 ล้านบาท ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ศาลฎีกามีคำสั่งไม่รับฎีกา ให้ยกคำร้อง ดังนั้น ยู่ยี่จึงต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ จำคุก 15 ปี
ส่วนกรณีที่มีการนำกรณีของ นายพันธิตร มาเทียบเคียงกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเรียกร้องการเลือกตั้งที่มีการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ที่ศาลให้ประกันตัวในวงเงิน 100,000 บาทนั้น คดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 มา ซึ่งเป็นลักษณะความผิดต่อความมั่นคง และมีอัตราโทษสูงการปล่อยตัวชั่วคราว จึงต้องใช้วงเงินประกันสูงตามไปด้วย
