ปอท. บุกรวบแก๊งดึงข้อมูลจากบริษัทโบรกเกอร์เหยื่อไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Internet banking เพื่อซื้อบัตรเงินสดออนไลน์ และขายต่อในเว็บไซต์เสียหายกว่า 1 ล้านบาท
วันนี้ (27 เม.ย.) พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) กล่าวว่า กลุ่มงานสนับสนุนคดีทางเทคโนโลยี นำโดย พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. พ.ต.ท.สุรชัจ สีมุเทศ พ.ต.ท.พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ รอง ผกก.กลุ่มงานสนับสนุนฯ บก.ปอท. พ.ต.ท.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.กก.2 ปรก. กลุ่มงานสนับสนุนฯ ว่าที่ พ.ต.ต.สุรโชค กังวานวาณิชย์ สว.กลุ่มงานฯ ได้นำกำลังร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาที่หลอกข้อมูลเหยื่อแล้วนำข้อมูลไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน Internet banking ของเหยื่อ เพื่อซื้อบัตรเงินสดออนไลน์ และนำบัตรเงินสดนั้นไปขายต่ออีกครั้ง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1. นายพีรยุท ครฑธาพันธ์ อายุ 28 ปี 2. น.ส.อรกานต์ บุณยรัตพันธุ์ อายุ 29 ปี (ยังเป็นผู้ต้องสงสัย และกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม) 3. นางอรอุมา อุ่นอ่อน อายุ 39 ปี โดยติดตามจับกุมได้ที่ห้องเลขที่ 38/517 ตึก ซี บ้านสวนแจ้งวัฒนา ซอยวัดเวฬุวนาราม 38 แขวง - เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน 6 พลัส, กล่องโทรศัพท์มือถือที่ใช้กระทำผิด 2 กล่อง, ซองที่ใส่ซิมโทรศัพท์ 4 ซอง และบัตรอิเล็กทรอนิกส์ 2 ใบ ก่อนแจ้งข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประกาศ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ จะนำส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอท. เพื่อดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.วรวัฒน์ กล่าวอีกว่า สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหา ได้ลักลอบดึงข้อมูลจากบริษัทโบรกเกอร์ประกันชั้นนำ ก่อนนำข้อมูลส่วนบุคคลโทร.ติดต่อลูกค้าบริษัทประกันที่เป็นเหยื่อ เพื่อหลอกขอข้อมูลเพิ่มเติม เช่น เลข 3 ตัวหลังบัตร ที่อยู่จัดส่งเอกสาร วงเงิน บัตรเครดิต โดยอ้างเรื่องการเพิ่มวงเงินบัตรเครดิต หรือการคืนเบี้ยประกันให้ เมื่อผู้ต้องหาได้ข้อมูลเพิ่มเติมของเหยื่อ จะแอบอ้างเป็นเหยื่อกับ Call center ธนาคาร เพื่อโทร.ขอเปลี่ยนแปลง อีเมล และเบอร์โทรศัพท์ ในระบบ Internet banking เป็นของผู้ต้องหาแทน เมื่อคนร้ายสามารถเข้าใช้ Internet banking ได้ จะทำการสั่งซื้อบัตรเงินสดโทรศัพท์ และนำบัตรเงินสดโทรศัพท์ไปขายแลกเงินสดในเว็บไซต์ที่รับซื้ออีกทอดหนึ่ง ซึ่งในห้วงที่ผ่านมา กลุ่มผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะนี้หลายสิบครั้ง โดยแต่ละครั้งจะได้เงินตั้งแต่ 300 บาท ถึง หลายหมื่นบาท โดยมูลค่าความเสียหาย รวมกว่า 1 ล้านบาท
“ปัจจุบันการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว และอาจจะทำให้ประชาชนถูกหลอกลวงได้ง่ายเช่นกัน ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนมีสติ ใช้เทคโนโลยีด้วยความระมัดระวัง แต่หากถูกหลอกลวงและได้รับความเสียหายจากการใช้เทคโนโลยีต่างๆ หรือพบเห็นการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี สามารถแจ้งได้ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อาคาร B ชั้น 4 แจ้งวัฒนะ หรือ โทร. 02 1422555 ถึง 60” ผบก.ปอท. กล่าว