MGR Online - กองปราบฯ แถลงรวบแก๊งเงินดำ หรือ Black Money ชาวแคเมอรูน ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ตุ๋นทำธุรกิจซื้อขายทองคำราคาถูกชาวโอมาน 4 ล้าน โดยอ้างว่ามีน้ำยาเคมีพิเศษสามารถเพิ่มยอดธนบัตรได้สูงถึง 12 ล้าน
วันนี้ (25 เม.ย.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดชรอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ภานุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.1 บก.ป.พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจานงค์ สว.กก.1 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งเงินดำชาวแคเมอรูน ประกอบด้วย นายปิแอร์ อเล็น กันจุย และนายจีน โรเบิร์ต คองเน ทั้งสองสัญชาติแคเมอรูนในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” โดยจับกุมตัว นายปิแอร์ ได้ภายใน B.M.แมนชั่น ซ.อินทามระ 47 แขวงและเขตดินแดง กทม. ส่วนนายจีน จับกุมได้ที่อาคารรัชต์ภาคย์ ถ.อโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.
พ.ต.ท.ก่อเกียรติกล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวโอมานว่าได้ถูกแก๊งเงินดำ หรือ Black Money หลอกลวง โดยก่อนหน้านี้เพื่อนชาวโอมานที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเพื่อทำธุรกิจซื้อขายทองคำราคาถูกกับชาวแคเมอรูนจำนวน 3 คน โดยได้ตกลงซื้อทองกันที่น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ราคาประมาณ 4 ล้านบาท แต่เมื่อถึงขั้นตอนซื้อขายกลุ่มผู้ต้องหาได้แจ้งว่าต้องการขายที่ 15 กิโลกรัม ในราคา 12 ล้านบาทเท่านั้น แต่ผู้เสียหายเตรียมเงินมาไม่พอสำหรับการซื้อขายทองจำนวนดังกล่าว
พ.ต.ท.ก่อเกียรติกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้อ้างว่ามีน้ำยาเคมีพิเศษสามารถเพิ่มจำนวนเงินจาก 4 ล้านบาทเป็น 12 ล้านบาทได้พร้อมแสดงวิธีการให้ผู้เสียหายเห็นโดยการนำธนบัตรเงินโอมานจำนวน 200 เรียล มาวางทับกับกระดาษสีขาวขนาดเท่าธนบัตรที่ทาด้วยหมึกสีดำหลายชั้น แล้วนำไปหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์ประมาณ 10 นาที ก่อนจะแกะออกแล้วนำไปล้างด้วยน้ำยา ปรากฏว่ากระดาษเปล่าดังกล่าวกลายเป็นธนบัตรจริง ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้นำเงินที่เตรียมมาทั้งหมด 50,000 เรียล หรือประมาณ 4 ล้านบาท มาลองให้ผู้ต้องหาใช้วิธีการคล้ายกัน คือ นำเงินจริงมัดเอาไว้ 1 ห่อ และกระดาษสีขาวขนาดเท่าธนบัตรจริงอีก 1 ห่อ เอาไปวางใส่ถังซึ่งอ้างว่ามีสารเคมีชนิดพิเศษอยู่แช่ทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาที จึงยกขึ้นมาทั้ง 2 ห่อ และเปิดให้ผู้เสียหายดูก็พบว่าเป็นธนบัตรจริง
พ.ต.ท.ก่อเกียรติกล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้นำธนบัตรทั้ง 2 ห่อ มัดหุ้มกันด้วยกระดาษฟอยล์แล้วนำไปไว้ใต้เตียงให้ผู้เสียหายนอนเฝ้า และผู้ต้องหาก็อ้างว่าจะกลับมาแช่น้ำยาเคมีให้อีกครั้ง กระทั่งผู้เสียหายทราบว่าผู้ต้องหาได้สลับเอาเงินจริงจำนวนกว่า 4 ล้านบาทหลบหนีไป ส่วนเงินที่ผู้เสียหายนอนเฝ้านั้นปรากฏว่าเป็นเงินปลอม จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อผู้ต้องหาได้อีกเลย
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรีกล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่รับแจ้งเรื่องจากผู้เสียหายทำการสืบสวนจนซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วันก็ทราบว่าผู้ร่วมขบวนการมีประมาณ 4 คน พร้อมทั้งออกหมายจับเอาไว้แล้วทั้งหมด ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่กองปราบปรามได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือหลบหนีไปต่างประเทศไปแล้ว จากการตรวจสอบประวัติพบว่ากลุ่มคนร้ายมีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง และเชื่อว่าจะก่อเหตุในลักษณะเดียวกันนี้มาหลายครั้งแล้ว
ส่วน พ.ต.อ.จิรภพกล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนให้พึงตระหนักถึงพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งลักษณะดังกล่าว อีกทั้งการได้มาซึ่งผลกำไรที่มากเกินจริง มักจะเป็นการหลอกลวง โปรดอย่าหลงเชื่อโดยเด็ดขาด