กองปราบฯ ตามรวบหนุ่มโรงงาน แค้นถูกหลอกแต่งงานเอาสินสอด ก่อเหตุยิง"เมียสาว-พ่อตา " หลังตามง้อขอคืนดีแต่กลับถูกด่าหยาบคาย
วันนี้(17 เม.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 01.45 น. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.เอนก บุญตา สว.กก.3บก.ป.นำกำลังจับกุม นายสมหมาย อาสากูล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 14 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ตามหมายจับศาลอาญาจังหวัดนางรอง ที่ 67/2561 ลงวันที่13 เม.ย. ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ได้ภายในห้องเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ 12 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา นายสมหมาย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิง น.ส.อรณี ยอดสว่าง อายุ 25 ปี อดีตภรรยา และนายสำเนา ยอดสว่าง อายุ 56 ปี อดีต พ่อตา เสียชีวิตหลังจากตามง้อขอคืนดีกับภรรยาไม่สำเร็จ เหตุเกิดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 76 บ้านหนองมะค่า ม.14 ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดยปัญหามาจากการที่ผู้ต้องหามีปัญหากับครอบครัวผู้ตาย เพราะหลังแต่งงานทางครอบครัวฝั่งภรรยาก็กีดกันไม่ให้ยุ่ง ด้วยความสงสัยและน้อยใจ วันก่อเหตุจึงเดินทางมาคุยกับครอบครัวฝ่ายภรรยาและก่อเหตุดังกล่าว
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวต่อว่า หลังก่อเหตุก็ได้ขึ้นรถหนีมาที่กบินทร์บุรี ทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องเช่าดังซึ่งเป็นสถานที่จับกุมเจ้าหน้าที่พบจดหมายลาตายไว้ในห้องพัก คาดว่าหากจับกุมช้ากว่านี้ผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตามตรวจสอบพบว่าปืนที่ก่อเหตุเป็นของพ่อผู้ต้องหามีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
จากการสอบสวน นายสมหมาย ให้การรับสารภาพว่าเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2560 ครอบครัวตนและครอบครัวผู้ตายต้องการให้แต่งงานกัน ทั้งๆ ที่ไม่เคยรักใคร่หรือชอบพอกันมาก่อน โดยมีสินสอดเป็นเงิน 8 หมื่นบาท พร้อมกับทองคำหนัก 1 บาท พอแต่งงานกันแล้วก็พา น.ส.อรณี มาอยู่กินกันที่ จ.ฉะเชิงเทรา เนื่องจากตนต้องมาทำงานเป็นช่างประกอบชิ้นส่วนรถยนต์ที่โรงงานแห่งหนึ่ง หลังจากใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้เพียงแค่ 1-2 สัปดาห์ น.ส.อรณี ก็เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป ทำตัวเหมือนรังเกียจก่อนจะหนีกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด
"หลังแต่งงานกันมา 1 ปี ผมและ น.ส.อรณี ร่วมหลับนอนกันเพียงแค่ 1ครั้งเท่านั้น อีกทั้งเวลาที่ผมกลับมาตามง้อก็ถูกคนในครอบครัวของ น.ส.อรณี กีดกัน มีเพียงแค่แม่ของ น.ส.อรณี เท่านั้นที่เอ็นดูผม รักผมเหมือนลูกจริงๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้รู้สึกน้อยใจ เหมือนกับถูกหลอกแต่งงานเพื่อต้องการเอาเงินสินสอด" นายสมหมาย กล่าว
นายสมหมาย กล่าวอีกว่า ก่อนแต่งงาน ผู้ตายเคยบอกว่า อยู่ๆกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง แต่พอเอาเข้าจริงกลับกลายเป็นตนที่รักเขาฝ่ายเดียว ส่วนเขากลับทำเหมือนตนเป็นคนน่ารังเกียจ ไม่ยอมให้เข้าใกล้ แม้แต่ตอนนอนยังต้องเอาหมอนข้างมาวางกั้นกลางไม่ให้ใกล้ชิดกัน ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุได้ไปตามง้อ น.ส.อรณี อีกครั้งแต่ไม่เป็นผล อีกทั้งยังถูกด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงบันดาลโทสะใช้อาวุธปืนของพ่อตนเองที่แอบขโมยมายิงใส่ น.ส.อรณี จนเสียชีวิต ระหว่างนั้นนายสำเนา พ่อของ น.ส.อรณี ซึ่งเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงวิ่งปรี่เข้ามาแย่งปืนจากตน ด้วยความตกใจจึงลั่นไกใส่นายสำเนา จนเสียชีวิตไปอีกราย
นายสมหมาย กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุทำอะไรไม่ถูกจึงรีบหนีขึ้นรถโดยสารเดินทางไปหาที่กบดานตามต่างจังหวัดแบบไม่มีจุดหมาย ก่อนจะมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว อย่างไรก็ตามอยากฝากขอโทษที่ก่อเหตุดังกล่าว ที่ทำไปเพราะเป็นอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป