รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 10 เมษายน 2561 ตอน เปิดลับ “2 พลเอก”เพื่อน ผบ.ทบ. คุมทัพ”พรรคไพบูลย์”หนุน “บิ๊กตู่”
นักการเมืองเริ่มออกตัว ขยับกันคึกคักทั้งพรรคเก่าพรรคใหม่ เพื่อจะเตรียมตัวเข้าชิงชัยในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งยังไม่รู้จะมีจริงหรือไม่ และถ้ามีเลือกตั้งยังไม่แน่ว่าจะเร็วหรือช้า เพราะตอนนี้ยังอยู่สภาวะอึมครึม กฎหมายลูกสองฉบับคือที่มา ส.ส. และ ส.ว. ยังรอให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตาอยู่
แต่อย่างไรในสภาวะความไม่แน่นอน ทางที่ดีต้องเตรียมตัวกันไว้ก่อน พรรคใหม่ที่เดินหน้าไปแล้ว ก็คือ “พรรคประชาชนปฏิรูป” ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) จัดประชุมพรรคประชาชนปฏิรูปครั้งแรกและเป็นพรรคแรกหลังคสช.อนุญาต
ประชาชนปฏิรูปได้ตัวกรรมการบริหารพรรค 27 คน ซึ่งนายไพบูลย์เป็นหัวหน้าพรรค นายแพทย์ มโน เลาหวณิชเป็นเลขาธิการ สองจอมยุทธ์คนกล้าระบือนามมาจากทกรณีเปิดศึกถล่มลัทธิธรรมกาย และพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัด จนพังพินาศมาแล้ว
นอกจากไพบูลย์กับหมอมโนแล้ว แกนนำพรรคที่น่าสนใจ ยังมีนายทหารระดับยศ “พลเอก”อีกสองคน คือ พล.อ.ลือพงศ์ โชติวิทยากาญจน์ เป็นรองหัวหน้าพรรค , พล.อ.จิระศักดิ์ บุตรเนียร อดีตประธานสโมสรมุกดาหารลำโขง เป็น รองเลขาธิการพรรค
แน่นอนว่า เมื่อมี “ทหาร”โผล่มาร่วมนั่งเป็นกรรมการบริหารพรรค อย่างพล.อ.จิระศักดิ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ลือพงศ์ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทย ย่อมแสดงว่า นายไพบูลย์ มีสายสัมพันธ์กับกองทัพไม่ใช่ธรรมดา
ก่อนอื่นต้องรู้ด้วยว่า นายทหาร 2 นาย ก็มีโปร์ไฟล์ไม่ธรรมดา เพราะเป็น “เพื่อนร่วมรุ่น ตท.16 และ จปร.27” กับ “บิ๊กเจี๊ยบ”พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. คนปัจจุบัน แต่พล. อ. ลือพงศ์และพล. อ. จิระศักดิ์เกษียณอายุราชการไปก่อนแล้ว
เมื่อสืบเสาะย้อนไป จะพบว่านายไพบูลย์ ได้รู้จัก คุ้นเคยกับพล.อ.จิรศักดิ์ ผ่านมูลนิธิอีพีเอ ธรรมศาสตร์ หลักสูตรปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เพราะ นายไพบูลย์ เป็นประธานมูลนิธิฯ
ส่วน พล.อ.ลือพงศ์ นายไพบูลย์รู้จักผ่านงานด้านกิจการพระพุทธศาสนา ที่สนใจเรื่องการปฏิรูปสงฆ์มาด้วยกันก่อนหน้านี้ โดยไพบูลย์ได้เปิดตัวพล.อ.ลือพงศ์ตั้งแต่ต้นปี2561 เพราะได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.เฉลิมชัย ในฐานะเลขาธิการ คสช.
ครั้งนั้นนายไพบูลย์ มาในฐานะประธานเครือข่ายประชาชนปฏิรูป ได้นำตัวแทนผู้ค้ารายย่อยตลาดนัดจตุจักร ที่ได้รับความเดือดร้อนมามอบให้ เพื่อขอ คสช. ให้ตรวจสอบการทุจริตเกี่ยวกับสัญญาการจ้างทำความสะอาดของตลาดนัด
โดยมี “บิ๊กเล็ก”พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสนาธิการทหารบก ลงมารับเรื่องร้องเรียนที่ห้องรับรองในสำนักงานเลขานุการกองทัพบกด้วยตัวเอง จึงเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า พล. อ. ลือพงศ์เข้าถึงศูนย์อำนาจกองทัพบกได้
แน่นอนว่า การที่ระดับ “เสนาธิการทหารบก”ลงมารับหนังสือด้วยตนเอง จึงมีนัยยะสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะสายสัมพันธ์ระหว่าง นายไพบูลย์ กับ กองทัพ ที่เห็นได้ชัดเจน
ขณะที่ พล.อ.จิรศักดิ์ ถือว่ามีคอนเนคชั่นในวงการฟุตบอลไทยและคอนเนคชั่นใน จ.มุกดาหาร ส่วน พล.อ.ลือพงศ์ ก่อนหน้านี้มักจะออกงานบุญงานกุศลและมีคอนเนคชั่นในพื้นที่ จ.นครราชสีมา
เห็นร่องรอยทางเดินที่ผ่านมาของสองพลเอก ที่คลุกคลีอยู่ในแถบจังหวัดภาคอีสาน และนายไพบูลย์ก็เคยเป็นนักธุรกิจใหญ่ระดับพันล้านอยู่ถิ่นอีสานเหมือนกัน ก็พอจะให้ว่าเป้าหมายพรรคนี้พุ่งเป้าสู้ศึกในสมรภูมิอีสานอย่างแน่นอน ที่พรรคเก่าเจ้าถิ่นจะประมาทไม่ได้
สำหรับแนวทางของพรรคนายไพบูลย์ ยังคงยืนยันถึงจุดยืนพรรคในการสนับสนุน “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็น “นายกฯคนนอก”ในอนาคต แต่นายไพบูลย์ เรียกว่า “นายกฯคนกลาง” นั่นเอง
นายไพบูลย์ระบุว่าไม่รู้จักกับ “บิ๊กตู่”เป็นการส่วนตัว จึงไม่ได้ไปทาบทามให้บิ๊กตู่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค แต่เหตุผลหนุนบิ๊กตู่เพราะเชื่อในความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นบุคคลที่ไม่มีประวัติทุจริต
พร้อมย้ำว่าการดัน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้เป็นการสร้าง “เงื่อนไข”ทำให้การเมืองในระบบรัฐสภาเกิดความวิกฤติและนำไปสู่รัฐบาลแห่งชาติ แต่มั่นใจในตัวบิ๊กตู่จะเป็นผู้ประสานอำนาจได้ดี
หากไล่เรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดูแล้วพรรคของ นายไพบูลย์ มีทางเดินสะดวกโยธิน ไปไหนก็มี “เพาเวอร์”ไม่น้อย จึงต้องจับตา “พรรคประชาชนปฏิรูป”นี้ให้ดี !!