รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 21 มีนาคม 2561 ตอน ทางสองแพร่ง บิ๊กตู่คัมแบ็ก ออเจ้าจะเป็นบุพเพสันนิวาส หรือลิขิตแห่งกรรม
ในสภาวะยังไม่ชัดเจนว่าจะเลือกเดินทางไหน ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างเข้าสู่สนามเลือกตั้งเต็มตัว ในฐานะ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี โดยให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเสนอชื่อเป็น นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ หรือจะหวังลุ้นเข้ามาทางช่อง นายกฯคนนอก หรือนายกฯนอกบัญชีรายชื่อ
เพราะท่าทีของบิ๊กตู่ ช่วงหลัง แม้จะไม่ปฏิเสธเหมือนเช่นในอดีต ในเรื่องความเป็นไปได้ที่จะกลับมาเป็นนายกฯรอบสอง แต่ก็ไม่แสดงความชัดเจนว่าจะมาช่องทางไหน
อย่างเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พอบิ๊กตู่ ถูกสื่อถามเรื่อง จะไปมีตำแหน่งการเมืองในพรรค พลังประชารัฐ ที่มีกระแสข่าวว่า มีการวางตัวหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ที่เป็นคนในเครือข่ายรัฐบาลและคสช.ไว้แล้ว โดยจะให้ พลเอกประยุทธ์ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค ตัวบิ๊กตู่ ก็ตอบแบบ แทงกั๊ก คือไม่ตอบรับ ไม่ปฏิเสธแบบแข็งขัน
บิ๊กตู่ตอบไว้ว่า“ยังไม่รู้เหมือนกัน วันนี้ยังไม่เห็นมีใคร เชิญผมไปนั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษาพรรคเลย มีแต่พูดกันไป และว่าผมจะตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่ทราบเช่นกัน ขอเวลาทำงานของผมก่อน การเมืองยังมีเวลา
พลเอกประยุทธ์อยู่ในสภาพ กำลังประเมินสถานการณ์รอบด้าน ก่อนตัดสินใจในชั้นสุดท้าย ว่าจะเลือกทางไหน
จากเดิมที่ ดูเหมือนจะเทน้ำหนักไปที่ การเข้ามาด้วยเส้นทางนายกฯคนนอก แต่ระยะหลัง กระแสข่าวการเมืองหลายสาย ทิ้งน้ำหนักไปที่ความไม่แน่นอน โดยประเมินว่า โอกาสเกิดนายกฯคนนอก แม้จะเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ง่าย
ยิ่งหากไม่มีฐานการเมืองรองรับ ไม่มีพรรคการเมืองของตัวเองคอยเป็นมือเป็นไม้ ในที่ประชุมรัฐสภา การไปยืมจมูกคนอื่น ยืมนั่งร้านคนอื่น คอยต่อให้ขึ้นไปเป็นนายกฯ มันก็อาจมีปัญหาภายหลัง
อีกทั้ง หากบิ๊กตู่มาเป็นนายกฯคนนอก ก็ไม่พ้นถูกมองว่า สืบทอดอำนาจ ไม่ได้มาด้วยการเลือกตั้ง กระแสไม่ยอมรับ จะมีสูง
ทั้งหมด จึงทำให้ เห็นได้ชัดว่า ท่าทีของบิ๊กตู่ระยะหลังไม่ปฏิเสธเสียงแข็ง เรื่องความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ถนนการเมือง ที่ไม่ใช่นายกฯคนนอก
ห้วงเวลานี้บิ๊กตู่มีท่าทีเปลี่ยนไป อาจเพราะกำลังตัดสินใจว่า จะเข้ามาบนถนนการเมือง และลุ้นคัมแบ็คนายกฯ ด้วยวิธีการแบบไหน จะมาด้วยนั่งร้านของตัวเอง พรรคการเมืองของเครือข่ายตัวเอง ลงเป็น หนึ่งในแคนดิเดทนายกฯ ประกาศตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน หรือจะมาด้วยนายกฯคนนอก
คือทางสองแพร่ง ที่บิ๊กตู่ คงต้องตัดสินใจในอนาคตอันใกล้
ขณะนี้อาจเป็นไปได้ ที่บิ๊กตู่ อาจ ยอมให้พรรคการเมือง ประกาศชื่อตัวเอง เป็นนายกฯ เพียงแต่จะเป็นพรรคไหน เท่านั้น ยิ่งล่าสุด แรงใจ บิ๊กตู่ มาอีกรอบ คราวนี้เป็นศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง "อยากได้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป ตามกฎหมายการเลือกตั้งปัจจุบัน
โดยในคำถามที่ว่า บุคคลที่ประชาชนอยากให้เป็นนายกฯ พบว่าอันดับ 1 ร้อยละ 38.64 ระบุว่าเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทิ้งห่างนักการเมืองหน้าเก่าอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ และ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลายช่วงตัว
กระแสแบบนี้ คือสิ่งที่ บิ๊กตู่ คงมั่นใจหากวางหมากการเมืองดีๆ ปิดช่องโหว่ จุดอ่อนการเมืองไว้ทุกด้าน ไม่ให้ถูกบอนไซ ฝ่ายตรงข้ามทะลุทะลวงได้ ก็มีโอกาสคัมแบ็คนายกฯรอบสอง
สำคัญแต่ว่า ต้องตัดสินใจให้ดี จะเลือกทางไหน เช่น หากเลือกจะให้พรรคการเมืองประกาศชื่อตอนหาเสียงได้ ก็ต้องเลือกพรรคที่มั่นใจว่า ขายได้ มีแบนด์เนม เป็นพรรคที่ลงสนามแล้ว สู้ได้ มีความหวัง แม้ไม่ใช่พรรคที่มีส.ส.อันดับหนึ่งหรือสอง แต่ก็ต้องอยู่ในระดับพรรคอันดับ 3-อันดับ4
ทั้งหมด บิ๊กตู่ คงขอเวลาตัดสินใจ อย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้พลาด โดยเฉพาะ หากต้องไปร่วมหอลงโรง กับพรรคการเมืองใด พรรคนั้นก็จะต้องเป็น พรหมลิขิต เป็นบุพเพสันนิวาสที่แท้จริงให้มาพบและทำงานด้วยกัน รุ่งเรืองรุ่งโรจน์ ไปด้วยกัน
ไม่ใช่ ไปร่วมด้วย แล้วเกิดเป็น การตัดสินใจที่ผิดพลาด จากพรหมลิขิต ดันพลิกแปดตลบกลายเป็น ลิขิตแห่งกรรม ทางการเมือง คือ ไม่ใช่แค่ไม่รุ่ง แต่กอดคอกันดับทางการเมือง แบบนี้ บอกได้แค่ว่าจบไม่สวยแน่