MGR Online - กองปราบปรามเก็บลายเซ็น “ป้าติ้น” เปรียบเทียบลายเซ็นบนสลากฯ รางวัลที่ 1 งวด 1 เม.ย.60 พิสูจน์โดน “ป้าติ้ว” ยักยอก 30 ล้านตามที่แจ้งความไว้ที่อุดรธานี จริงหรือไม่ ส่วนคดีแจ้งความ"ป้าดา"ยักยอกหวย 30 ล้าน งวด 1 เม.ย.59 ที่ สน.ประเวศ ส่อโดนย้อนศรกลับฐานแจ้งความเท็จ หลังตรวจสอบรางวัลที่หนึ่ง 120 คู่ ไม่มีชื่อ"ป้าดา"นำไปขึ้นเงิน
วันนี้ (20 มี.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ
ครูโรงเรียนเทพมงคลรังสี จ.กาญจนบุรี ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวบพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีซึ่งคืบหน้าไปมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือรายละเอียดเพียงบางส่วนเท่านั้น และยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสอบปากคำใครเพิ่มเติมเนื่องจากมีพยานบุคคลมากพอแล้ว ส่วนกรณีนายนายฐนุกร เหลืองใหม่เอี่ยม หรือนายแผน พยานฝั่งนายปรีชา ใครครวญ จะเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งที่ 2 ในวันที่ 21 มี.ค.หรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนายแผน แต่หากนายแผนยังไม่ยอมมาเข้าพบพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
ส่วนความคืบหน้ากรณีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทอีกคดี ที่นางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น แจ้งความดำเนินคดี นางจรูญ เฮ็ด หรือป้าติ้ว ฐานยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 เม.ย.2560 ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท โดยได้มีการแจ้งความที่ สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานีไว้แล้ว และต่อมา ป้าติ้วได้แจ้งความกลับป้าติ้นข้อหาแจ้งความเท็จนั้น มีรายงานว่าช่วงบ่ายวันเดียวกัน นางเรวดีได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.จักรี กุลแก้ว รอง สว.สอบสวน กก.1 บก.ป. ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเก็บตัวอย่างลายเซ็นของนางเรวดี เพื่อเตรียมนำส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบกับลายเซ็นบนสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดวันที่ 1 เม.ย.2560 ที่มีคนนำไปขึ้นเงินรางวัล เพื่อพิสูจน์ว่าคำกล่าวอ้างของนางเรวดีนั้นจริงเท็จมากน้อยเพียงใด
ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีในส่วนของ สน.ประเวศ ที่นางเรวดีแจ้งความดำเนินคดีต่อนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ว่ายักยอกสลากรางวัลที่ 30 ล้านบาท ที่ตนถูกรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 เม.ย.2559 ว่าขณะนี้สำนวนการสืบสวนสอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว กำลังอยู่ระหว่างเร่งทยอยสอบปากคำพยาน โดยพยานในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่ถูกรางวัลที่ 1 ในงวดดังกล่าวและคนขายสลากที่ถูกรางวัล
นอกจากนี้จะส่งลายมือชื่อของนางเรวดีไปยังสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อตรวจสอบลายมือชื่อที่นางเรวดีอ้างว่าได้เซ็นลงบนสลากที่ถูกรางวัลด้วย และคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนเพื่อประมวลเรื่องและรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้มาทั้งหมด จากนั้นจะพิจารณาว่า นางเรวดีซึ่งถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งให้นางสุดารัตน์ได้รับโทษทางอาญานั้นมีความผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ หากพบว่ามีความผิดก็จะนำสำนวนเสนอต่อศาลเพื่อพิจารณาออกหมายจับต่อไป
ส่วนกรณีของ ร.ต.ท.สมประสงค์ ปสาทรัตน์ หรือหมวดโค้ก รองสารวัตรสอบสวน สน.ประเวศ พนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้สรุปสำนวนฐานกระทำความผิดทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อ ป.ป.ท.ไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นพบว่า การแจ้งความของนางเรวดี ที่ก่อนหน้านี้แจ้งความว่านางสุดารัตน์ยักยอกทรัพย์สลากฯ ที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาทนั้นมีพิรุธค่อนข้างชัดเจน เนื่องจากชุดสืบสวนกองปราบปรามลงพื้นที่หาข้อมูลและประสานกับตำรวจ สน.ประเวศ เจ้าของคดีพบว่าสลากที่ถูกรางวัลที่ 1 ในพื้นที่ สน.ประเวศ งวดวันที่ 1 เมษายน 2559 นั้นมีผู้ถูกรางวัลจำนวน 3 คู่ เป็นของบุคคล 3 คน ในจำนวนนี้ไม่มีชื่อของนางสุดารัตน์ จึงได้เชิญตัวผู้ที่ถูกรางวัลมาให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำในฐานะพยานเช่นเดียวกับแม่ค้าพ่อค้าที่ขายสลากฉบับที่ถูกรางวัลก็ได้นำตัวมาสอบสวนแล้วด้วย ทั้งหมดให้การสอดคล้องกันว่ามีการซื้อขายสลากดังกล่าวตรงกัน โดยทั้งหมดไม่รู้จักกับนางสุดารัตน์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ชุดสืบสวนกองปราบปรามยังได้ประสานไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อขอตรวจสอบว่ารางวัลที่ 1 ของงวดวันที่ 1 เมษายน 2559 นั้นมีบุคคลใดบ้างที่มาขอขึ้นเงินรางวัลและมาขึ้นรางวัลครบทุกคนหรือไม่ ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ ได้ตอบกลับมาแล้วว่า รางวัลที่ 1 ของงวดดังกล่าวนั้นมีผู้มาขอขึ้นรางวัลไปครบหมดแล้วจำนวน 120 คู่ และในจำนวนนี้ไม่มีชื่อของนางสุดารัตน์เป็นผู้ถูกรางวัลแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากหลักฐานทั้งหมดที่ชุดสืบสวนกองปราบปรามได้มาในเบื้องต้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่นางสุดารัตน์จะถูกรางวัลที่ 1 ในงวดดังกล่าวตามที่นางเรวดีเคยแจ้งความดำเนินคดีต่อนางสุดารัตน์ไว้ฐานยักยอกทรัพย์ ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะดำเนินคดีต่อนางเรวดีตามฐานความผิดที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีไว้ต่อไป