xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : ถอดรหัส“ประชาธิปัตย์”จูบปาก“ทหาร” ส่งสัญญาณตีตั๋วร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 20 มีนาคม 2561 ตอน ถอดรหัส“ประชาธิปัตย์”จูบปาก“ทหาร” ส่งสัญญาณตีตั๋วร่วมรัฐบาลหลังเลือกตั้ง



วันนี้มาถอดรหัสประโยคเด็ดของอดีต ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ รังสิมา รอดรัศมี ที่หลุดมา ว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยังดีกว่าเผด็จการรัฐสภา “เพื่อไทย”

สั้นๆได้ใจความ จนเห็นหน้าตาการเมืองไทยหลังเลือกตั้ง ซึ่งมันเป็นการตอกย้ำให้เห็นด้วยว่า สุดท้ายไม่มีพื้นที่ตรงกลางในการเมืองไทย มีแค่จะอยู่ฝ่ายไหนเท่านั้น

แม้ภาพลักษณ์ประชาธิปัตย์ที่เห็น ดูเหมือนจะต้องกลืนเลือด ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ไม่ร่วมหอลงโลงกับเผด็จการ ในฐานะพรรคตามระบบประชาธิปไตย แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเหลือแค่ “เพื่อไทย” กับ “ทหาร” พรรคประชาธิปัตย์ก็ขอที่จะเลือกอยู่ตรงข้ามพรรคภายใต้การบงการของ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้มีคดีทุจริตเป็นหางว่าว

ต่อให้ “เจ๊โอ๋ รังสิมา” จะไม่ใช่สมาชิกพรรคระดับแกนนำก็ตาม แต่มันสามารถสะท้อนความคิดของคนในค่ายพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นอย่างดี แม้ช่วงที่ผ่านมาจะวิพากษ์วิจารณ์ คสช. ราวกับว่า จะโค่นล้มกันเสียให้ได้ ถึงขนาดถูกคนนินทาว่า ไปจูบปากกับพรรคเพื่อไทยเสียแล้ว

ทว่าหลังจากรังสิมาหลุดปากออกมา ก็พานทำให้คนคิดว่า ทั้งหมดที่ประชาธิปัตย์ทำมา ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี หรือตรวจสอบ คสช. เป็นเพียงละครฉากหนึ่งของการเมืองไทยเท่านั้น

ต้องรู้ให้ทันพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยด้วย เบื้องหน้าจะให้ไปเออออห่อหมกกับทหารแบบออกนอกหน้ามากเกินไป เพราะจะผิดคอนเซปต์ประชาธิปไตย เลยต้องกอดภาพลักษณ์ตัวเองไว้แน่น เรียกว่า จะให้มาว่าซูฮกท้อปบู๊ตนั้นไม่ได้ ประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ของไทยก็คงจะคล้ายๆกัน

สิ่งที่ “รังสิมา” พูด แม้ดูเป็นความเห็นส่วนตัว แต่ว่ากันว่าใกล้เคียงสิ่งที่อยู่ในใจลึกๆ คนประชาธิปัตย์ได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากปากคำคนระดับหัวหน้าพรรคอย่าง “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่บอกว่า จะไม่มีอยู่กับพรรคเพื่อไทย ตราบใดที่ยังอยู่ภายใต้การครอบงำของ “นายใหญ่ดูไบ”

แม้ไม่ได้บอกเลือก “ทหาร” แต่การไม่เอา “เพื่อไทย” มันเป็นการสารภาพกลายๆ ว่า สุดท้ายเมื่อการเลือกตั้งเสร็จเข้าสภาแล้ว พรรคสีฟ้าจะอยู่กับใคร มีให้เลือกแค่ 2 ทางเท่านั้น คือ ถ้าไม่เอาพรรคเพื่อไทยก็ต้องไปอยู่กับฝ่ายทหาร ไม่มีพื้นที่ตรงกลางในรัฐสภา

ถ้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แน่นอนว่า “ทหาร” และ “ประชาธิปัตย์” เองจะต้องไปอยู่ในสถานะพรรคฝ่ายค้าน คงไม่มีใครไปร่วมรัฐบาลเป็นแน่แท้ เฉกเช่นเดียวกันถ้าวันเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเลือกนายกฯ ตามบัญชีรายชื่อได้

เป็นทีของฝ่ายทหารในรวบรวมกำลังพลตั้งเป็น “รัฐบาลผสม” ก็คงไม่มีทางจะเห็นประชาธิปัตย์ไปนั่งเป็นฝ่ายค้านร่วมกับพรรคเพื่อไทย

อย่างที่รู้กันในทางการเมือง ทฤษฎีสมคบคิดระหว่าง “เพื่อไทย” และ “ประชาธิปัตย์” ไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะการเลือกแนวทางนั้นเป็นการทำลายคะแนนนิยมตัวเอง หักหลังมวลชนที่สนับสนุนของทั้งสองฝ่าย

เป็นที่รู้กันว่ามีความต่างขั้วกันว่าแรง ถึงขั้นผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ถ้าเห็นการร่วมมือกันของสองพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ ถือเป็นการทรยศต่ออุดมการณ์มวลชนย่อมรับไม่ และจะพากันกระโดดหนี

ขณะเดียวกัน ฝ่ายทหารเองลำพัง 250 ส.ว. ในสภา ผนวกกับบรรดาพรรคขนาดกลาง ขนาดเล็ก ไม่น่าจะเพียงพอในการเสริมสร้างเสถียรภาพของรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยจ้องเจาะยางอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องมีกองหนุนที่หนาแน่นกว่านี้

กลุ่มทหารไม่มีทางที่จะเลือก “เพื่อไทย” เข้ามาเสริมเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับรัฐบาลแน่ จึงเหลือเพียงแค่ “ประชาธิปัตย์” เท่านั้น เมื่อศัตรูเป็นคนเดียวกัน มันก็จะเป็นไฟต์บังคับให้ร่วมหอลงโลงกันในสุดท้าย เพียงแต่ว่า เงื่อนไขความพอใจระหว่างสองฝ่ายมันอยู่ตรงไหน

ฝ่ายประชาธิปัตย์เป็นพรรคเก๋าเกม เรื่องแนวทางทางการเมือง คงไม่ง่ายที่ทหารจะเกี่ยวไปเฉยๆ แต่ต้องข้อแลกเปลี่ยนที่สมเหตุสมผล ที่สำคัญ ต้องไม่กระทบภาพลักษณ์ของพรรคที่เก่าแก่ แต่ท่าทีของประชาธิปัตย์ผ่านคนในทั้ง “อภิสิทธิ์” และ “รังสิมา”

มันกำลังบ่งบอกว่า ระหว่าง “ทหาร” และ “ประชาธิปัตย์” ยังมีช่องทางประสานกันได้อยู่ อยู่ที่การต่อรอง

สำหรับประชาธิปัตย์เรื่องภาพลักษณ์นั้นมาอันดับหนึ่ง วันนี้ที่ไม่สามารถยกยอปอปั้นรัฐบาลทหาร เพราะเส้นบางๆ เรื่องคำว่า “รัฐประหาร” แต่ถ้าวันหนึ่งทหารลงไปเล่นการเมืองในระบอบ ตรงนี้ก็อาจเป็นข้อยกเว้นที่จะไปสังฆกรรมได้แบบไม่น่าเกลียด และไม่เสียจุดยืนตัวเอง

เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นแค่สัญญาณส่งผ่านให้สาธารณชนรับรู้ไว้ จะได้ทำใจกันเสียแต่เนิ่นๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น