รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 14 มีนาคม 2561 ตอน ล่าคนโกงหวย 30 ล้าน ภาค 2 ตร.-ครูปรีชาซีดดาบ ป.ป.ช.ซ้ำ
คดีหวย 30 ล้านอลวน คนอลเวง ขณะนี้แม้ตำรวจสอบสวนกลางจะฟันธงให้ล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข533726 มูลค่า 30 ล้าน ตกเป็นของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจเป็นผู้ครอบที่แท้จริงแล้ว พร้อมกับจับกุม นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา ครูเซียนหวย และเจ๊บ้าบิ่น แม่ค้าขายสลากในตลาดเรดซิตี้ จ.กาญจนบุรี
สองคนจอมบงการเจอแจ้งความผิดในข้อหา แจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน , กลั่นแกล้งผู้อื่นให้ได้รับโทษทางอาญา และ แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการซึ่งใช้เป็นพยานหลักฐาน
ภายหลังที่สองคู่หู"ครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่น"ถูกเช็คบิลไปแล้ว แต่คดีหวย30ล้านภาคสองกำลังตามเช็คบิลกับตำรวจชุดทำคดีนี้ที่ทำให้เรื่องดังกล่าวบิดเบี้ยวก็ยังรอการสะสาง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งชุดคลี่คลายคดีที่มี พล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี รอง ผู้บัญชาการบชก. เป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีสอบสวนหาตัวไอ้โม่งในชุดสีกากีที่เป็นต้นตอ
โดยมีการเรียกตัว ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี และ พ.ต.ท.ชูวิทย์ เจริญนาค รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี มาสอบปากคำอย่าง เคร่งเครียดนานหลายชั่วโมง หลายครั้งจนไดความจริง
กระทั่งทั้งสองยอมเปิดปากให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ว่า หลัง พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับรายงานว่าครูปรีชา เข้าแจ้งความ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ ชัชรินทร์กุล รอง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาญจนบุรี เรื่องหวย 30 ล้านที่หายไป
เริ่มออกอาการส่อพิรุธเมื่อผู้การฯสุทธิเข้ามาตรวจสอบคดีดังกล่าวด้วยตนเอง และเชื่อโดยสนิทใจว่าหวยดังกล่าวเป็นของครูปรีชา จนมาถึงตอนที่พล.ต.ต.สุทธิ ขู่และปลอบ ร.ต.ท.จรูญ ว่า “จะแบ่งเงินกันคนละครึ่งกับครูปรีชา หรือจะไปนอนในคุกตอนแก่”
แต่ ร.ต.ท.จรูญ ไม่ยินยอมและยืนยันว่าตนเองซื้อหวยมาจริงๆ ไม่ได้เก็บได้ตามที่ถูกครูปรีชากล่าวหา หลังจากที่ทาง พล.ต.ต.สุทธิ เป็นฝ่ายรุกก่อน ก็เกิดความกลัวหลัง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความหมวดจรูญ รุกกลับบ้าง
โดยทนายหมวดจรูญได้บอกว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.สุทธิ กรณีข่มขู่ลูกความให้ยอมแบ่งเงินค่าหวยให้ครูปรีชา
นี่คือที่มาของวิชามารบิดพลิ้วสำนวนคดี เพราะกลัวถูกทนายหมวดจรูญเล่นงาน และอีกประการหนึ่งก็เนื่องจากเดินหน้าก็ถอยไม่ได้ จึงวางแผนสั่งการทางวาจาให้ พ.ต.ท.ชูวิทย์ นายตำรวจคนสนิท ให้กำชับ ร.ต.อ.จิรยุทธ์ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี ซึ่งทั้งสองถูกกันตัวเป็นพยาน เปลี่ยนแปลงคำให้การในสำนวนหลายครั้ง
ด้วยการเพิ่มข้อความอันเป็นเท็จที่ได้มาภายหลัง ลงไปในคำให้การเดิม และลงวันที่ย้อนหลัง โดยเฉพาะคำให้การของ เจ๊บ้าบิ่น และ น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ เจ๊พัช เพื่อให้กลมกลืนสอดคล้องกัน เสมือนว่าเป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งแรก ส่วนสำนวนการสอบสวนในครั้งแรกจริงๆ นั้นถูกสั่งให้ฉีกทิ้งไป
นอกจากนี้ยังมีการปั้นพยานเท็จมาสร้างความน่าเชื่อถืออีก 2 ปาก คือผู้พบเห็นหมวดจรูญก้มเก็บสลากในตลาดเรดซิตี้ และพยานที่เห็นสลากรางวัลที่ 1 ในกระเป๋าครูปรีชา แล้วขอแบ่งซื้อ แต่ครูปรีชาไม่ยอมขายให้
ทำให้เสมือนพยานหลักฐานของฝ่ายครูปรีชามีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากขึ้น ส่งผลต่อการมีความเห็นทางคดีของพนักงานสอบสวน ว่าหวยเป็นของครูปรีชา
นอกจากนี้พบว่า พ.ต.ท.ชูวิทย์ เป็นผู้ลงนามในการในหนังสืออายัดเงินหวยในบัญชีของ ร.ต.ท.จรูญ ตามคำสั่งของ พล.ต.ต.สุทธิ จึงเป็นที่มาแถลงข่าวปาหี่แหกตาประชาชนยกหวย 30 ล้านให้คนที่แอบอ้างสิทธิ์ผู้อื่น
จากที่เชื่อว่าพล.ต.ต.สุทธิเข้าไปยุ่งเหยิงกับคดีหวยอลเวงอันเป็นความผิด เลยโดยแจ้งข้อหาปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่งเรื่องให้กองบังคับการกองปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบดำเนินคดี ซึ่งส่งให้ปปช. สอบสวนและสั่งฟ้องต่อไป
ส่วนที่น่าติดตามต่อไปด้วยใจระทึก คือในสำนวนคดีปปช. เอาผิดพล. ต. ต. สุทธิ จะมีรางวัลแจ๊คพ็อตมาถึงครูปรีชา ด้วยหรือไม่ ซึ่งตามพฤติการณ์แห่งคดีครูปรีชาเป็นคนวางงานโกงหวยหมวดจรูญ มีผู้การฯสุทธิเป็นหนึ่งในหมากบนกระดาน
ตามกฎหมายปปช. ครูปรีชาอาจจะโดนฟ้องในฐานสนับสนุนหรือติดสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิด เหมือนกรณีนายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรทีวีคนดังก็เจอในฐานสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ช่อง9 อสมท. ทำผิดโกงเวลาให้บริษัทไร่ส้ม ถ้าเจอปปช. เล่นงานครูปรีชาซีดแน่
ความสำเร็จของการคลี่คลายคดีหวย30ล้านต้องยกให้เป็นผลงานของ พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่ทำงานด้วยความยึดมั่นในความถูกต้องยุติธรรม จนคดีนี้ใกล้ปิดฉาก ภายใต้ความเข้าใจของทุกฝ่าย ด้วยที่พล. ต. ท. ฐิติราชสามารถอธิบายเหตุที่เกิดขึ้นว่าใครถูกใครผิดอย่างไร โดยมีพยานหลักฐานในคดีประกอบการชี้แจงทุกขั้นตอน จึงเป็นที่ยอมรับและชื่นชมของสังคม
ส่วนตัวผู้กระทำผิดก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ครบถ้วนทุกคน แม้แต่ตำรวจด้วยกันก็ไม่มีการงดเว้นให้ คดีนี้ก็เป็นบทเรียนให้ตำรวจที่มีวุฒิภาวะต่ำ ศีลธรรมบกพร่อง ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน ไม่ให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน ปลายทางชีวิตตำรวจเช่นนี้ก็ต้องเจอกรรมตามสนอง