MGR Online - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมเข้าช่วยเหลือมอบสิ่งของจำเป็นให้แก่ผู้ต้องขัง ถือเป็นพระกรุณาธิคุณที่ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้กระทำผิด
วันนี้ (12 มี.ค.) ณ เรือนจำกลางคลองเปรม แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ร่วมเข้าช่วยเหลือผู้ต้องขังผู้ด้อยโอกาสทางสังคมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีคุณภาพทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจ ด้วยการมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ ทัณฑสถานต่างๆ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ รองประธานคณะกรรมการมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ให้เกียรติเป็นประธานในการส่งมอบสิ่งของให้กับผู้ต้องขัง ซึ่งนับเป็นพระกรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ องค์นายกกิตติมศักดิ์มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา องค์ประธานมูลนิธิฯ ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้กระทำผิด ทั้งในด้านชีวิตความเป็นอยู่ภายในเรือนจำ และการพัฒนาพฤตินิสัยและจิตใจ ให้ผู้พ้นโทษพร้อมที่จะกลับคืนเป็นคนดีสู่สังคม
พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวอีกว่า ด้านชีวิตความเป็นอยู่ภายในเรือนจำนั้น พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ได้มีพระดำริให้พัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังและทรงเข้าร่วมแก้ไขปัญหาผ่านทางโครงการกำลังใจ และโครงการพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติต่อผู้หญิงในเรือนจำซึ่งนำไปสู่การรับรองข้อกำหนดสหประชาชาติว่าด้วยการปฏิบัติต่อผู้กระทำผิดหญิง และมาตรการที่ไม่ใช้การคุมขังสำหรับผู้กระทำผิดหญิง หรือข้อกำหนดกรุงเทพ (the Bangkok Rules) เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของผู้ต้องขังหญิง
“สำหรับในด้านการพัฒนาพฤตินิสัยและจิตใจ ได้มีพระดำริที่จะช่วยเหลือให้ผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษได้มีโอกาสพัฒนาความสามารถทางอาชีพ มีทัศนคติในเชิงบวกและสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข จึงทรงน้อมนำแนวทางตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้กับการพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง ซึ่งนำไปสู่โครงการเรือนจำเศรษฐกิจพอเพียงอันส่งผลให้ผู้พ้นโทษสามารถช่วยเหลือตนเองและครอบครัว ปลอดจากหนี้สิน และเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่นในชุมชน อีกทั้งไม่หวนกลับมากระทำผิดซ้ำอีก และในครั้งนี้นับเป็นพระกรุณาธิคุณที่ทั้งสองพระองค์ทรงห่วงใยพสกนิกรผู้กระทำผิด และได้มอบสิ่งของเครื่องใช้ให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งกรมราชทัณฑ์จะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป”