MGR Online - สาวแจ้งความตำรวจถูกแท็กซี่ชิงทรัพย์ทำร้ายร่างกาย รับแล้วกุเรื่องขึ้นมา รอยแผลใช้มีดโกนกรีดแขนตัวเอง อ้างเครียดปัญหาครอบครัว แม่ไม่สบายเงินขาดมือไม่พอใช้ โต้สังคมออนไลน์ไม่เคยติดหนี้ร้านบาร์โฮสต์ ใช้เงินสดจ่ายตลอด
วันนี้ (22 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุริยา นาคแก้ว รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา ผกก.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว พ.ต.ท.ไอยรา อากาศวิภาต สว.สส.สน.ลาดพร้าว ร่วมแถลงข้อเท็จจริงกรณี น.ส.ทองประกาย สุขศรีราษฎร์ หรือเก๋ อายุ 26 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ว่าถูกแท็กซี่ทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย จนสภาพสะบักสะบอม มีบาดแผลถูกของมีคมบาดที่แขนข้างซ้ายจนมีเลือดไหลนอง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 03.45 น.วันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ภาสกรกล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.ทองประกาย เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว ว่าถูกคนขับแท็กซี่ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ซึ่งโดยสารออกจากร้านโดม รัชดาภิเษกซอย 8 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ไปที่คอนโดมิเนียมลุมพินี ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ เมื่อมาถึงธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองจั่น น.ส.ทองประกายได้ให้คนขับแท็กซี่จอดรถเพื่อจะลงไปโอนเงินให้เพื่อน แต่คนขับลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาที่ประตูหลังด้านซ้าย ก่อนข่มขู่ให้ส่งกระเป๋าเงินให้ แต่ น.ส.ทองประกายไม่ยอมจึงเกิดการยื้อแย่งกันและถูกกรีดแขนขวาด้วยของมีคม ก่อนที่คนขับแท็กซี่จะเอาทรัพย์สินทั้งหมดไปได้แล้วหลบหนีไปไป หลังเกิดเหตุตนจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี
พ.ต.อ.ภาสกรกล่าวอีกว่า หลังได้รับแจ้งความจึงให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อหาตัวผู้กระทำผิด แต่พบข้อพิรุธหลายอย่าง อาทิ การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่ น.ส.ทองประกาย ขึ้นรถแท็กซี่ มาจนถึงจุดที่ลงรถคือคอนโดมิเนียม ไม่พบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น รวมถึงมีพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริง หลังจากซักถามในที่สุด น.ส.ทองประกายก็ยอมรับสารภาพว่าที่มาแจ้งความทั้งหมดไม่เป็นความจริง โดยเบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ทองประกาย 2 ข้อหา คือ 1. แจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5 พันบาท 2. นำข้อความอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท จึงขอฝากไปถึงประชาชนว่าอย่าคิดอะไรง่ายๆ และคิดว่ามันจะไม่มีอะไร ทุกอย่างที่ทำมันมีผลย้อนมาสู่ตัวเราเสมอหากไม่ใช่เรื่องจริง
ด้าน น.ส.ทองประกายกล่าวว่า สาเหตุที่ทำไปเนื่องจากมีความเครียดในเรื่องครอบครัว พอเลิกกับพ่อของลูกก็ต้องอยู่คนเดียว จากนั้นแม่ก็ป่วยทำให้ไม่มีใครดูแลลูก จึงเครียดเรื่องเงินไม่พอใช้ ถ้าไม่มีใครดูแลลูกแล้วตนต้องเป็นคนดูแล ใครจะเป็นคนหาเงินให้ลูก และหลายๆ เรื่องที่เข้ามา บางเรื่องพูดได้บางเรื่องก็พูดไม่ได้ เพราะไม่รู้จะระบายให้ใครฟัง เมื่อความเครียดสะสมก็เลยไปเที่ยว วันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้กินเหล้า ไม่ได้อัปยาอย่างที่เป็นข่าว ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่าตนเป็นหนี้ ตอนนี้ก็เป็นหนี้เพื่อนที่บอกว่าจะโอนเงินให้ ไม่มีติดเงินร้านอาหารอย่างที่เป็นข่าว ไปเที่ยวทุกครั้งจ่ายเงินสดตลอด ครั้งล่าสุดที่ไปก็ประมาณ 14,000 บาท แต่จ่ายคนละครึ่งกับเพื่อน
“บาดแผลที่เกิดขึ้นทำเองโดยใช้มีดโกน เพราะเกิดจากความเครียด ตอนนั้นคิดว่ามันหาทางออกไม่ได้ เครียดมาก ตอนนี้ก็ยิ่งเครียดกว่าเดิม ที่ไปแจ้งความเพราะเพื่อนพาไป เนื่องจากเพื่อนเป็นห่วงเพื่อน เขาคิดว่ามันคือเรื่องจริง เรื่องมันก็เลยบานปลาย ทำในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ แต่ยอมรับว่าคิดไม่เยอะ สำหรับข้อความที่โพสต์ลงเฟซบุ๊กทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่ไม่ดีนั้น ขอโทษแท็กซี่ทุกคนที่ทำให้เสื่อมเสีย ไม่คิดว่าเรื่องมันจะบานปลายไปขนาดนี้ ขอโทษตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกคน รวมถึงผู้สื่อข่าวที่ติดตามข่าวนี้มาตลอด วันนี้ยอมรับผิดและสำนึกผิด” น.ส.ทองประกายกล่าว