xs
xsm
sm
md
lg

ตร.คุมสมุนโกตี๋ทำแผนปาระเบิดบ้าน “สำราญ รอดเพชร” แกนนำ กปปส.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ตำรวจ สน.คันนายาว คุมตัวอดีตหัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ลูกน้องโกตี๋ หนึ่งในทีมปาระเบิดบ้าน “สำราญ รอดเพชร” แกนนำ กปปส. ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ



วันนี้ (20 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.คันนายาว พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว พร้อมชุดสืบสวน สน.คันนายาว ควบคุมตัว นายกฤษชาภณ หรือสุกิจ พูลศิลป์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 340 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 76/2561 ลงวันที่ 15 ก.พ. 2561 และศาลจังหวัดมีนบุรี ที่ จ.156/2561 ลงวันที่ 16 ก.พ. 2561 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายต่อบุคคล หรือทรัพย์สินผู้อื่น, ร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธ (ลูกระเบิด) ไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีร่วมกับพวก 5 คน ก่อเหตุขว้างระเบิดเข้าไปในบ้านเลขที่ 27/1 หมู่บ้านชวนชื่น ซอยคู้บอน 6 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. ของนายสำราญ รอดเพชร แกนนำกลุ่ม กปปส. เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 28 ม.ค. 2557

จุดแรก เริ่มจากนายกฤษชาภณกับพวกรวม 3 คน นั่งรถกระบะ 1 คัน ส่วนที่เหลืออีก 2 คน ขับขี่และซ้อนท้ายจักรยานยนต์ 1 คัน เดินทางเข้ามาในซอยคู้บอน 6 จากนั้นผู้ที่มากับจักรยานยนต์ได้ทำการชี้เป้าบ้านของนายสำราญ ทั้งหมดจึงหยุดรถบริเวณหน้าบ้าน นายกฤษชาภณ และนายอุดมชัย นพสวัสดิ์ อายุ 61 ปี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการที่นั่งรถกระบะมาด้วยกันจึงลงจากรถ โดยนายกฤษชาภณถืออาวุธปืนเอ็ม 16 ทำหน้าที่เป็นชุดคุ้มกัน ก่อนที่นายอุดมชัยจะขว้างระเบิดชนิดเอ็ม 67 (ลูกเกลี้ยง) เข้าไปในบ้านพักของนายสำราญ ทำให้กระจกภายในบ้านเสียหาย 7 บาน รถยนต์ถูกสะเก็ดระเบิดเล็กน้อย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

หลังจากนั้นทั้งสองก็ขึ้นรถกระบะหลบหนีไปพร้อมกับพวกทั้งหมด มุ่งหน้าไปยังสถานที่กบดานย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี และรายงานให้นายวุฒิพงศ์ หรือโกติ๋ ผู้สั่งการรับทราบ จนกระทั่งนายกฤษชาภณถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวพร้อมระเบิดสังหารหลายชนิดได้ที่ย่านคอนโดมิเนียมเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลเร่งติดตามผู้ที่ร่วมก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น