xs
xsm
sm
md
lg

ตร.รู้เส้นทางการเงินกลุ่มบิตคอยน์ จ่อฟันขอแก้ กม.ไม่ต้องผ่านกระบวนการฟอกเงิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ศูนย์ปราบปราม อิเล็กทรอนิกส์ (ศป.ฉปทน.) แจงผลแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการเร่งด่วน พบมีการมีเปลี่ยนพฤติกรรมตุ๋นเงินผู้เสียหายและนำเข้าสู่กลุ่มบิตคอยน์ รู้เส้นทางการเงินหมดแล้ว แต่ต้องรอแก้ไข กม.ไม่ต้องผ่านกระบวนการฟอกเงิน

วันนี้ (29 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศป.ฉปทน.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (รอง ผบช.ทท.) นายศิวัช ชาวบางงาม ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายธานี โอฬารรัตน์มณี ผู้อำนวยการกองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมธุรกิจการค้า นายเดวิด บาร์น กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิตคอยน์ จำกัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือหามาตรการป้องกัน ระงับยับยั้งการทำธุรกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในขณะนี้

พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์กล่าวก่อนการประชุมว่า วันนี้มีวาระการประชุม 4-5 เรื่องเกี่ยวกับมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นการเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบลุกลามบานปลาย เนื่องจากตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในปัจจุปันพบว่ามีการเปลี่ยนพฤติกรรมการหลอกลวงผู้เสียหายและนำเงินไหลเข้าสู่กลุ่มบิตคอยน์มากขึ้นโดยไม่ทราบว่าเงินดังกล่าวมีปลายทางที่ประเทศใด สร้างความเสียหายแก่ประเทศจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงเพื่อให้ทราบขั้นตอนต่างๆ และวางมาตรการป้องกันตลอดจนช่วยเหลือประชาชนผู้เสียหาย

“สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานขอข้อมูลบัญชีบิตคอยน์จากกลุ่มบริษัทที่ทำธุรกรรมเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอล หรือบิตคอยน์ เพื่อใช้ในการสืบสวน หลังพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่าร้อยละ 90 มีการนำเงินของผู้เสียหายเข้าสู่ระบบบิตคอยน์มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบเส้นทางการเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดแล้ว ยืนยันว่าตำรวจติดตามและรู้ทันเทคโนโลยีของกลุ่มคนร้าย แม้ว่าการทำธุรกรรมผ่านระบบบิตคอยน์จะไม่สามารถเอาผิดตามกฎหมาย ปปง.ได้ เนื่องจากบิตคอยน์ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ปปง.ต้องรอให้เกิดการฟอกเงินเกิดขึ้นจึงจะสามารถเอาผิดได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายเพื่อให้บิตคอยน์เข้าสู่ระบบเหมือนสถาบันการเงินทเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้” ที่ปรึกษาพิเศษ ตร.กล่าว และว่าสำหรับบริษัทที่เชิญมาร่วมประชุมทั้งหมดในวันนี้ 4-5 แห่ง กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบแล้วว่ามีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยแต่ละบริษัทก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น