หนุ่มไทยถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาเลเซียหลอกไปเป็นพ่อครัว บังคับให้โทร.ข้ามประเทศมาลวงคนไทยโอนเงิน ทั้งในเรื่องของไปรษณีย์และหมายจับปลอม ก่อนออกอุบายพ่อแม่ป่วย กลับไทยแจ้งความช่วยเหลือเพื่อนคนไทยอีก 2 รายได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ณ commercial crime division ประเทศมาเลเซีย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 บช.ทท. พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2 บช.ทท. พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ.บช.น. พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.บช.น. พ.ต.ท.ศิลา ตันตระกูล สว.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล.บช.ก. และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมหารือกับตำรวจมาเลเซียเพื่อบุกเข้าช่วยเหลือคนไทยที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์กักขังหน่วงเหนี่ยว หลังเพื่อนที่หลบหนีกลับเมืองไทยได้เข้าแจ้งความขอความช่วยเหลือ ทั้งนี้ ยังได้ประชุมหารือทำความตกลงและแลกเปลี่ยนมาตรการในการดำเนินการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในทุกมิติ
ต่อมา เวลา 16.00 น. ของวันเดียวกัน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซีย และตำรวจไทย ระดมกำลังเข้าให้ความช่วยเหลือเหยื่อชาวไทย ภายในอาคารสูง 21 ชั้นกลางกรุง พบ 2 ชายไทย ถูกขังไว้ภายในห้องพัก ชั้น 21 โดยมีแม่บ้านและคนขับรถชาวมาเลเซีย เป็นคนคอยคุมตัวและส่งอาหาร จึงได้คุมตัวไว้เพื่อขยายผลต่อไป
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การบุกเข้าช่วยเหลือชาวไทยที่อยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ครั้งนี้ ตำรวจท่องเที่ยวได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชายไทย ซึ่งเพิ่งเดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ให้เข้าช่วยเหลือเพื่อนร่วมชาติอีก 2 คน ซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศมาเลเซีย กักขังหน่วงเหนี่ยวให้ทำงาน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับชายไทยรายดังกล่าวที่หลบหนีมาได้ บอกว่า ตนและเพื่อนถูกหลอกว่าจะให้ไปทำงานเป็นพ่อครัว แต่พอเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซีย กลับถูกชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งพาไปยังที่พัก โดยบอกว่าจะให้ฝึกงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ก่อนในระหว่างรอ แต่งานที่ได้ทำกลับกลายเป็นการโทรศัพท์ข้ามประเทศมาหลอกลวงคนไทย ทั้งในเรื่องของไปรษณีย์และหมายจับปลอม คนไทยที่หลบหนีได้จึงแสร้งทำเป็นช่วยงานก่อน เพราะหากไม่ทำก็จะถูกคนร้ายทุบตี ทุกคนทำงานจนคนร้ายตายใจ จึงขอกลับประเทศไทย โดยอ้างว่าพ่อแม่ป่วย ก่อนจะเข้าขอความช่วยเหลือกับตำรวจท่องเที่ยว