MGR Online - สน.ศาลาแดง ตามรวบ 2 หนุ่มตระเวนขับเก๋งลักทรัพย์บ้านช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ มีผู้เสียหายแจ้งความหลายรายการ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจบการศึกษาปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่ขาดสภาพคล่องจึงลงมือก่อเหตุ
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่ สน.ศาลาแดง พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา ผบก.น.7 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รอง ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.ณฐกร คุ้มทรัพย์ ผกก.สน.ศาลาแดง ร่วมกันแถลงข่าวผลงานฝ่ายสืบสวน สน.ศาลาแดง จับกุมตัว นายพีระพันธุ์ หรือบอส ดุรงค์ศศินา อายุ 29 ปี ชาว จ.ตาก และนายวิษณุ หรือเทิง ดินยุ้งศรี อายุ 28 ปี ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางรถเก๋งโตโยต้า รุ่นพรีอุส สีขาว ทะเบียน 5 กฐ 1776 กรุงเทพมหานคร ทองรูปพรรณ นาฬิกาข้อมือ กระเป๋าถือแบรนด์เนม พระเครื่องเลี่ยมทอง ทีวีดิจิตอล และเครื่องเล่นเกม รวม 78 รายการ รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยจับกุมตัวนายพีระพันธุ์ได้ที่ลานจอดรถเมโทรปาร์ค คอนโดเฟส 2/1 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. ส่วนนายวิษณุถูกจับกุมตัวได้ที่ร้านข้าวต้มยันหว่าง ถนนพุทธมณฑลสาย 1 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม.
พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อกลางดึกวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ต่อเนื่องช่วงเช้าวันที่ 1 ม.ค. 2561 เป็นคืนที่อยู่ในช่วงเทศกาลเคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ได้มีผู้เสียหายคือ นายอำนาจ โพคัยสวรรค์ อายุ 64 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 5 ซอยบางแวก 152 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. และ น.ส.วริศรา ยิ้มเลิศลักษณ์ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 7 ที่อยู่ติดกัน เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่าขณะที่เจ้าของบ้านทั้ง 2 หลังไปเที่ยวปีใหม่ บ้านได้ถูกคนร้ายชาย 2 คน ใช้หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ทั้งเงินสด พระเครื่องเลี่ยมทอง สร้อยทอง แหวนทองรูปพรรณ สูญไปรวมกันกว่า 1.3 ล้านบาท จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงและในตัวบ้านสามารถจับภาพผู้ก่อเหตุทั้ง 2 รายเอาไว้ได้ค่อนข้างชัดเจน และจากแผนประทุษกรรมของคนร้ายก็คล้ายคลึงกับหลักฐานคดีลักทรัพย์ในบ้านพักเหยื่อท้องที่อื่นๆ เช่น สน.บางขุนเทียน สน.บางเสาธง และ สน.หลักสอง ฝ่ายสืบสวน สน.ศาลาแดง จึงขยายผลติดตามหาเบาะแสของคนร้ายทั้ง 2 คนจนทราบว่า นายพีระพันธุ์ และ นายวิษณุ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันเป็นผู้ลงมือและติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้
จากการสอบสวนนายพีระพันธุ์ และนายวิษณุ ยอมรับว่าทั้งคู่มีการศึกษาที่ดี เคยเรียนด้วยกันมาจนจบการศึกษาปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เคยทำธุรกิจร่วมกันเกี่ยวกับการรับจ้างขับรถยกและรถขนส่ง แต่ระยะหลังสภาพคล่องไม่ดีทำให้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีเกี่ยวกับการสั่งจ่ายเช็ค จึงชักชวนกันมาก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านพักผู้เสียหายหลายแห่งเพื่อหาเงินใช้จ่ายประจำวัน ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 60 จนถึงปัจจุบัน ยอมรับทำมาแล้ว 7 หลัง ได้ทรัพย์สินไปขายตามเว็บไซต์และตลาดออนไลน์กว่า 4 ล้านบาท โดยวิธีการคือจะเลือกบ้านที่ไม่มี รปภ.แล้วขับรถทำทีไปกดออด หากไม่มีคนอยู่บ้านก็จะปีนและงัดประตูเข้าไปทำลายระบบซีซีทีวี รื้อค้นขโมยทรัพย์สิน แต่หากมีคนอยู่ก็จะอ้างว่ากดออดผิดบ้าน
ทั้งนี้ อยากฝากเตือนถึงผู้แสวงหาซื้อสินค้ามือสองในโลกออนไลน์ หากพบว่าสินค้ามีราคาต่ำกว่าท้องตลาดมากเกินไป ขอให้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากอาจถูกดำเนินคดีรับของโจรก็เป็นได้ ดังนั้น หลังจากนี้หากการสอบสวนขยายผลไปถึงผู้ใดก็จะเรียกมาแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายด้วยเช่นกัน” พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์กล่าว
ด้าน น.ส.วริศรา เจ้าของบ้านเลขที่ 7 หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่า ตนทำธุรกิจขายผ้าม่าน คืนวันที่เกิดเหตุตนเดินทางไปเคานต์ดาวน์กับเพื่อน ไม่มีใครอยู่บ้าน คนร้ายทั้งคู่มาถึงประมาณ 2 ทุ่ม วันที่ 31 ธ.ค. 60 โดยงัดประตูหลังบ้านเข้าไปลักทรัพย์สินด้านใน ได้เงินสด พระนางพญาเลี่ยมทอง และกระเป๋าแบรนด์เนม รวม มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท หลังจากเกิดเหตุทราบว่าฝ่ายสืบสวนแกะรอยคนร้ายได้จากกล้องวงจรปิด และแท็บเล็ตของผู้เสียหายคดีหนึ่งที่คนร้ายเผลอไปเปิดเครื่องที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค ทำให้โดนตามจับกุม และสามารถนำพระนางพญาเลี่ยมทองมาคืนตนได้ ทีแรกตนก็ไม่เชื่อว่าคนร้ายทั้ง 2 คนจะเป็นผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีรูปพรรณสัณฐานดี ขับรถดี และมีการศึกษาเป็นถึงบัณฑิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่เมื่อทางตำรวจมีหลักฐานและคนร้ายยอมรับสารภาพแบบนี้ จึงเข้าใจสัจธรรมที่ว่าคนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ
ขณะที่ พ.ต.อ.ณฐกรกล่าวว่า หลังจากนี้จะแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ หรือรับของโจร ต่อนายพีระพันธุ์ และนายวิษณุ เพื่อนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ศาลาแดง ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังยอมรับด้วยว่าเคยก่อเหตุลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหายมาแล้ว 5 หลัง คือ เมื่อเดือน ก.ย. 60 ก่อเหตุที่ห้องพักภายในเมโทรปาร์ค คอนโด ท้องที่ สน.บางขุนเทียน จำนวน 2 หลัง ได้ทรัพย์สินรวมกันราว 8 แสนบาท เมื่อเดือน ต.ค. 60 ก่อเหตุที่พุทธมณฑลสาย 1 ท้องที่ สน.บางเสาธง ได้ทรัพย์สินไปราว 2 แสนบาท และเมื่อเดือน พ.ย. 60 ก่อเหตุแถวหมู่บ้านชลพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลสาย 2 จำนวน 2 หลัง ได้ทรัพย์สินไปราว 700,000 บาท โดยคาดว่าการก่อเหตุที่บ้านผู้เสียหายทั้งสิ้น 7 หลัง ผู้ต้องหาน่าจะได้ทรัพย์สินรวมกันไปกว่า 4 ล้านบาท