xs
xsm
sm
md
lg

ทนาย “บรรยิน” เตรียมหลักทรัพย์ 2 แสน หากอัยการส่งตัวฟ้องข้อหาปลอมเอกสารโอนหุ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ทนาย “บรรยิน” เผยอัยการยังไม่นัดส่งตัวฟ้องคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น 200 ล้าน แต่เตรียมหลักทรัพย์ 2 แสนบาทไว้ยื่นประกัน ส่วนคดีฆ่าพร้อมขึ้นศาลพระโขนง 12 ก.พ.นี้

วันนี้ (9 ม.ค.) นายบัญชา ชัยจำ ทนายความของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมสู้คดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งให้ฟ้องร่วมปลอมแปลงเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้านว่า หลังจากที่มีข่าวเผยแพร่ว่าอัยการสูงสุดสั่งให้ฟ้องข้อหาปลอมแปลงเอกสารสิทธิแล้ว ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งด้วยหนังสือหรือโทรศัพท์จากตำรวจที่จะนัดส่งตัวให้ไปพบอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เพื่อจะยื่นฟ้องต่อศาล หากตำรวจแจ้งนัดเมื่อใดก็พร้อม ซึ่งตามหลักและการปฏิบัติ หากนัดฟ้องก็ต้องนัดผู้ต้องหาไปพร้อมกันทั้งหมด (ผู้ต้องหาร่วมอีก 2 คน) ส่วนเวลานี้ตนจะหารือกับ พ.ต.ท.บรรยินว่าจะสะดวกใช้หลักทรัพย์ใดยื่นประกันตัว จะเป็นเงินสด หรือสมุดบัญชีเงินฝาก หรือโฉนดที่ดิน แต่ถ้าสะดวกก็น่าจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝากและเงินสด ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์นั้น ประมาณ 200,000 บาท

ส่วนคดีที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ยื่นฟ้องเองข้อหาฆ่านั้น ศาลจังหวัดพระโขนงได้นัดสอบคำให้การในวันที่ 12 ก.พ.นี้ พ.ต.ท.บรรยินก็จะเดินทางไปตามนัด โดยเตรียมหลักทรัพย์ไว้ยื่นประกันตัวเช่นกันซึ่งมูลค่านั้นน่าจะเท่ากันกับชั้นฝากขังที่เคยยื่นไป คือ 2 ล้านบาท โดยคาดว่าการประกันตัวทั้ง 2 คดียังไม่มีอะไรยุ่งยาก พ.ต.ท.บรรยินก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ไม่ได้หลบหนีอะไร เราพร้อมต่อสู้คดี ผลเป็นอย่างไรสุดท้ายก็เป็นดุลพินิจของศาล

ด้านนายเดชา ขุนทอง ทนายความของ น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของตนเพิ่งทราบข่าวเรื่องที่อัยการสั่งฟ้องเมื่อเช้านี้ โดยยังไม่ได้รับแจ้งจากตำรวจแต่อย่างใดที่จะนัดส่งตัวไปพบอัยการเพื่อฟ้องคดี และยังไม่ได้พูดคุยกับลูกความในเรื่องนี้ ซึ่งการเตรียมตัวนั้นก็คงต้องเตรียมหลักทรัพย์ไว้ยื่นประกันตัวชั้นฟ้องคดี หลักทรัพย์น่าจะไม่สูงเท่าชั้นฝากขังที่ขณะนั้นมีข้อหาอื่นๆ ด้วย คือ ลักทรัพย์ และรับของโจร แต่ขณะนี้มีเพียงข้อหาร่วมปลอมเอกสารฯ เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์นั้น อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งให้ฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 28 ปี อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ ผู้ต้องหาที่ 1, น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 3 และ พ.ต.ท.บรรยิน อายุ 55 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมเท่านั้น จากเดิมสำนวนการสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ส่วน น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 53 ปีมารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาที่ 2 นั้นไม่ฟ้อง

ขณะที่ครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ โดยภรรยาและบุตรชายที่เป็นผู้จัดการมรดก ยังได้ยื่นฟ้องเองด้วยในคดีแพ่งขอคืนหุ้นจาก น.ส.กัญฐนา อดีตพริตตี้ และบริษัทหลักทรัพย์ ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ จำนวน 2 สำนวน ซึ่งศาลรับฟ้องแล้ว คดีอยู่ระหว่างรอสืบพยาน

รวมทั้งยื่นฟ้องคดีอาญา พ.ต.ท.บรรยิน กับ น.ส.อุรชา อดีตโบรกเกอร์คนสนิท และพ.ต.ท.บรรยิน กับน.ส.กัญฐนา อดีตพริตตี้สาวคนสนิทเสี่ยชูวงษ์ด้วย ฐานปลอมและใช้เอกสารปลอม ม.265, 268 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ อีก 2 สำนวน คดีอยู่ระหว่างไต่สวนมูลฟ้อง

และฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน เป็นคดีแพ่งต่อศาลจังหวัดพระโขนง เรียกค่าเสียหายจากละเมิด เหตุที่เสี่ยชูวงษ์เสียชีวิตด้วย คดียังอยู่ระหว่างพิจารณา


กำลังโหลดความคิดเห็น