ข่าวลึกปมลับ : จัดทัพสีกากีก่อนปฎิรูปตำรวจ หมากสุดท้ายในมือ'จักรทิพย์

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันพุธที่ 20 ธันวาคม 2560 ตอน จัดทัพสีกากีก่อนปฎิรูปตำรวจ หมากสุดท้ายในมือ'จักรทิพย์



การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ(รองผบก.) ถึง สารวัตร(สว.) วาระประจำปี 2560 หรือการแต่งตั้ง "นายพันตำรวจ" ที่ล่วงเลยระยะเวลาการแต่งตั้งตาม กฎ ก.ตร. ซึ่งกำหนดเอาไว้ภายในวันที่ 31 พฤศจิกายนของทุกปี

วันนี้น่าจะมีสัญญาณความชัดเจนมากขึ้น หลังจากการแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพล" วาระประจำปี 2560 มีผลเรียบร้อยสมบูรณ์แล้ว

ตามกรอบเวลาที่มีการวางกันไว้คร่าวๆ การแต่งตั้งตำรวจระดับ "นายพัน" น่าจะเริ่มหลังช่วงปีใหม่ 2561 ผ่านพ้นไปแล้ว ประมาณวันที่10-15 ม.ค.2561 เพื่อให้แต่ละกองบัญชาการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งเสนอให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณา และลงนามประมาณวันที่ 20 ม.ค.2561 ก่อนที่ทุกคำสั่งจะมีผลพร้อมกันวันที่ 1 ก.พ.2561

แม้กฎเกณฑ์ กติกาการแต่งตั้งยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องมีหนังสือแจ้งจากพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เนื่องจากตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 21/2559 เรื่อง การปฏิบัติราชการของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ลงวันที่ 26 เม.ย. 2559 มอบอำนาจให้ ผบ.ตร. แต่งตั้งตำรวจทุกระดับในวาระประจำปี 2558 และ 2559 เท่านั้น

เท่ากับว่า ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2560 คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่มอบอำนาจ ผบ.ตร. จัดทำบัญชีจะหมดไป

แต่ก็ยังมีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 7/2560 เรื่อง การปรับปรุงระบบการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตํารวจ ซึ่งใช้อำนาจตามมาตรา 44 ปรับผู้มีอำนาจในการออกคำสั่งแต่งตั้งใหม่ ยังคงให้อำนาจ ผบ.ตร. เป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้งทั้งหมด

เพียงแต่ ผบ.ตร. จะมอบอำนาจให้ รอง ผบ.ตร. หรือผู้มีตำแหน่งระดับผู้บัญชาการขึ้นไปออกคำสั่งแต่งตั้งก็ได้ตามคำสั่งคสช.นี้ ซึ่งหากมอบอำนาจไปแล้วเห็นว่าการดำเนินการแต่งตั้งไม่มีประสิทธิภาพ ผบ.ตร. มีสิทธิยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งนั้น หรือยกเลิกการให้อำนาจแต่งตั้งแล้วนำมาทำเองก็ได้

โดยตามคำสั่ง คสช. ฉบับนี้ การแต่งตั้งไม่ว่าจะเป็นอำนาจ ผบ.ตร. ออกคำสั่ง หรือผบ.ตร. มอบอำนาจให้ระดับ รอง ผบ.ตร. ที่ปรึกษา (สบ 10) ผู้ช่วย ผบ.ตร. หรือ ผบช. ออกคำสั่งก็ตาม การพิจารณาแต่งตั้งต้องผ่านคณะกรรมการคัดเลือก หรือ บอร์ดกลั่นกรอง

ตั้งแต่ระดับกองบังคับการ ต้องมีบอร์ด ที่มีรอง ผบก. ทุกนายเป็นกรรมการ จากนั้นจะต้องนำเสนอระดับ บช. ที่ต้องพิจารณาผ่านบอร์ดที่มี รอง ผบช. ทุกนายเป็นกรรมการ และหากต้องเสนอถึง ผบ.ตร. ที่มีอำนาจออกคำสั่ง ก็ต้องผ่านบอร์ด ที่ต้องมีรอง ผบ.ตร.จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ทุกนายเป็นกรรมการ ซึ่งก็จะคล้ายกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้ง พ.ศ. 2549

เมื่อประเมินกันตามสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ที่เก้าอี้ "ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ผบ.ตร." ของพล.ต.อ.จักรทิพย์ ยังไม่แน่ว่าจะแข็งแรงได้อีกนานแค่ไหน รวมทั้งน่าจะเป็นการแต่งตั้งตำรวจครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการปฎิรูปตำรวจจะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มีแนวโน้มสูงที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะเป็นผู้จัดทำบัญชีแต่งตั้งทั้งหมดเอง โดยมอบอำนาจให้แต่ละกองบัญชาการเพียงแค่เสนอบัญชีรายชื่อมาเหมือนเมื่อครั้งการแต่งตั้งตำรวจระดับนายพันวาระประจำปี 2559 แทนที่จะมอบอำนาจทั้งหมดให้กองบัญชาการไปทำกันเอง

ยิ่งมีเงื่อนไขการแต่งตั้งปรับเกลี่ยข้าราชการตำรวจ จาก สำนักงานนายตำรวจราชสำนัก มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 158 ตำแหน่ง ที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2560 มอบอำนาจให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ใช้อำนาจตามมาตรา 56 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547

แต่งตั้งปรับเกลี่ยข้าราชการตำรวจระดับตำแหน่งรองผบก.-ผบ.หมู่ รวมทั้งการแต่งตั้งตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว หรือ บช.ทท. ที่มีการจัดตั้งกองบัญชาการขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องมีการโยกย้ายตำรวจจากหน่วยงานอื่นเข้ามาดำรงตำแหน่ง

ก็จะเป็นเหตุ เป็นผล ให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ มีความชอบธรรมใช้อำนาจ ตามมาตรา 56มาดำเนินการ ดังนั้นเมื่อเป็นไม้สุดท้ายที่จะสามารถวางขุมกำลังในระดับปฎิบัติ ระดับใกล้ชิดชาวบ้าน ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะมีการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นตามแนวทางการปฎิบัติตำรวจที่วางกันเอาไว้

รวมทั้ง เชื่อว่าผู้มีอำนาจน่าจะใช้เป็นหมากในการปรับทัพสีกากีรองรับอนาคตข้างหน้า ซึ่งจะมีการเลือกตั้งตามโรดแมป การแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผู้บังคับการ ถึง สารวัตร วาระประจำปี 2560 จึงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด