xs
xsm
sm
md
lg

“เสธ.หยอย” โผล่มอบตัวปัดไม่ใช่เจ้าของปืน-ระเบิดซุกบึ้งน้ำแปดริ้ว“ศรีวราห์”ให้ประกันตัว 2 แสน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ท.มนัส เปาริก เสื้อแดง
 
MGR Online - “เสธ.หยอย” เข้าพบพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ขอมอบตัวคดีฐานร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดในอำเภอแปดริ้ว ปฏิเสธไม่ใช่ของตนเองและมีส่วนเกี่ยงข้อง หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ ก่อนให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสบอสวนวงเงิน 2 แสนบาท


วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2.บก.ป.ได้เดินทางไปพบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผบ.ตร.ที่ ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลอาญา อนุมัติออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการพบวัตถุระเบิดและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ในท้องที่จ.ฉะเชิงเทราเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ภายหลังศาลได้พิเคราะห์เห็นควรออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 5 ราย ประกอบไปด้วย นายชัยวัฒน์ หรือเปี๊ยก ผลโพธิ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 525/8ซ.เพิ่มสิน 13 แขวงคลองถนน เขตสายไหม ,นายสมเจตน์ หรือ สน คงวัฒนะ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ซ.วิภาวดี 34 แขวงและเขตจตุจักร ,นายจักรรินทร์ หรือ เสธ.ไก่ เรืองศักดิ์วิชิต อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132ซ.พหลโยธิน 32 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร ,พลโทมนัส หรือเสธ.หยอย เปาริก อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/60 ซ.อารีย์ ถ.พหลโยธิน แชวงพญาไท เขตจตุจักร และนายจักรภพ เพ็ญแข อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 555 แขวงและเขตสายไหม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2692-2696 /60 ลงวันที่ 7 ธ.ค. 2560 ในฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร

ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช รอง ผบช.ส. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รองผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ ฝ่ายกฎหมาย คสช.ได้เดินทางมาที่กองปราบปราม หลังได้รับการประสานจากพลโทมนัส หรือเสธ.หยอย เปาริก อายุ 68 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 2695/60 ลงวันที่ 7 ธ.ค. 2560 ในฐานความผิดร่วมกันมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ไว้ในครอบครอง และความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ว่าจะเข้ามามอบตัวกับทางพนักงานสอบสวนกองปราบปราม

โดยทันทีที่ทาง พล.ท.มนัส ได้เดินทางมาถึงทางคณะพนักงานสอบสวนได้แสดงหมายจับ ซึ่งทางพล.ท.มนัสได้ให้การรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง แต่อาวุธที่ตำรวจยึดได้นั้นขอยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จากนั้นพนักงานสอบสวนจะนำตัวไปสอบปากคำ

พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อปลายเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ตรวจพบอาวุธสงครามชนิดต่างๆได้ที่บริเวณบ่อบัวริมถนน หมู่ 15 ต.ฉิมพล อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งนี้คดีดังกล่าว ทางพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบสวนจับกุมคนร้ายได้โดยเร็ว ซึ่งทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และคณะทำงานได้ดำเนินการสืบสวนพร้อมกับโอนสำนวนคดีจากสภ.ฉิมพลี มาให้กับทางกองปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ ประกอบกับทาง ด้าน พ.อ.บุรินทร์ ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ 5 ผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบหลักฐานและพยานบุคคล มีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์คดีอาวุธสงครามที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี2557 ถึงปี 2560 จำนวนหลายคดี ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย ห้วยขวาง ลาดพร้าว บางเขน มีนบุรี พื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบไปด้วย ลาดบัวหลวง อ.วังน้อย, พื้นที่ จ.ปทุมธานี อ.คลองหลวง และพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว นอกจากนี้ยังพบว่ามีความเชื่อมโยงเป็นขบวนการ จนนำไปสู่การที่ศาลพิจารณาออกหมายจับบุคคลทั้ง 5 ราย

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ขณะนี้พบความเชื่อมโยงเพียงแค่ 5 รายเท่านั้น ซึ่งหากพยานหลักฐานบุคคลใดก็จะดำเนินการทันที เบื้องต้นได้สอบปากคำ พล.ท.มนัส ไว้เพื่อประกอบสำนวน โดยทางพนังงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวนในวงเงิน 2 แสนบาท ทั้งนี้จากการข่าวยังไม่พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ประมาทมีการวางมาตรการคุมเข้ม ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนไปเที่ยวในช่วงปีใหม่ จับจ่ายใช้สอยให้เต็มที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ส่วนเรื่องรักษาความปลอดภัยให้ประชาชนขอให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง

ส่วน พ.อ.บุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของนายวัฒนา ทรัพย์วิเชียร เจ้าหน้าที่พบว่าอยู่กับโครงข่ายแต่ไม่ได้เกี่ยวพันกับอาวุธล็อตนี้ ที่พบ ซึ่งทางนายวัฒนา ได้ประสานขอเข้ามอบตัวและให้การที่เป็นประโยชน์เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเดียวกัน ก่อนคุมตัวเข้าโครงการคุ้มครองพยาน นอกจากนี้นายวัฒนาเคยถูกดำเนินคดีและติกคุกในเรือนจำก่อนที่พ้นโทษออกมา

รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับอาวุธสงครามที่พบถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งทั้งหมดพบความเชื่อมโยงกัน โดยกลุ่มแรกเป็นระเบิดขว้างสังหารอาร์จีดี- 5 จำนวน 3 ชนิด ประกอบด้วยรุ่น 53-891T , 55-891T , 57-891T ถูกค้นพบใน 3 พื้นที่ คือ สน.บางนา , สน.ราษฎร์บูรณะ , สน.คันนายาว , สภ.ลาดบัวหลวง รวมของกลางที่พบทั้งหมด44 ลูก

กลุ่มที่สองลูกกระสุน M79 รุ่น LOT1-12 ค้นพบใน 3 พื้นที่ คือ สภ.เมืองนนทบุรี ,สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา , สน.ราษฎร์บูรณะ , รวมของกลางที่พบทั้งหมด 91 ลูก และ กลุ่มที่สาม ลูกกระสุน M79 รุ่น LOT1-12 ค้นพบใน 3 พื้นที่ คือสภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ,สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา , สน.ราษฎร์บูรณะ , รวมของกลางที่พบทั้งหมด 91 ลูก อย่างไรก็ตามจากการที่พบอาวุธสงครามในพื้นที่ สภ.ฉิมพลี ที่พบมีความเชื่อมโยงกันของทั้งสามกลุ่ม




กำลังโหลดความคิดเห็น