MGR Online - ผบ.ตร.ขยายผลจับสองผู้ต้องหาขนยาบ้ากว่า 10 ล้านเม็ด ไอซ์ 12 กิโลกรัม เขตคลองสามวา ผู้ต้องหารับสารภาพ ยังเหลือผู้ร่วมขบวนการอีกประมาณ 3-4 คน
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) (ปป.1) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รรท.ผบช.น.) และ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) แถลงจับกุม นายศราวุฒิ เนินภู อายุ 31 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี และนายอลงกรณ์ ยงประยุทธ อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ มีของกลางยาบ้า 10,500,000 เม็ด และไอซ์ จำนวน 12 กิโลกรัม โดยดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และไอซ์ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สำหรับพฤติการณ์ เมื่อวันที่ 21 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุม นายพงศกร หรือบอล พะวร อายุ 21 ปี ของกลางจำนวน 10,310,000 เม็ด จับกุมที่บ้านเลขที่ 33/433 ซ.พลอย 2 บางนา-ตราด 39 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และจากการสืบสวนสอบสวนขยายผล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบว่านายศราวุฒิ เนินภู อายุ 31 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี และนายอลงกรณ์ ยงประยุทธ อายุ 26 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด เป็นผู้ต้องหาขบวนการเดียวกัน โดยการเฝ้าสะกดรอยติดตามซึ่งผู้ต้องหาจะมีหน้าที่การทำงานอย่างเป็นระบบ และทราบว่านายศราวุฒิได้เช่าบ้านทาวน์เฮาส์เลขที่ 104/178 หมู่บ้านไอดีไซค์ ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. สงสัยว่าเป็นที่เก็บยาเสพติดและมีห้องพักอยู่ที่ลุมพินีคอนโด อาคาร A หมายเลขห้อง 63/90 ซอยรามอินทรา 75 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะใช้รถ MG สีเหลือง และรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว
โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเฝ้าติดตามดูความเคลื่อนไหว กลุ่มนี้จนเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้เห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหาได้นำรถยนต์บรรทุกกระบะหมายเลขทะเบียน ยก 9748 เชียงใหม่ คลุมด้วยผ้าใบสีดำมิดชิดมาจอดไว้ที่ท้ายซอยพระยาสุเรนทร์ 19 จากการเฝ้าติดตามของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจนพบว่าเวลาประมาณ 20.00 น. นายอลงกรณ์ได้ขับรถยนตร์กระบะคันดังกล่าวออกไปจากจุดที่จอดอยู่ภายในซอยพระยาสุเรนทร์ 19 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ปิดล้อมและจับกุมผู้ต้องหาขณะขับรถออกมาจากท้ายซอย ทำการตรวจค้นรถยนต์คันดังกล่าวพบว่ามียาบ้าซุกซ่อนอยู่ 10,500,000 เม็ด และเวลาต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าตรวจค้นในบ้านเลขที่ 104/178 หมู่บ้านไอดีไซค์ พบไอซ์จำนวน 12 ถุง น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม รวม 12 กิโลกรัม
พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า วันนี้เป็นการแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยบูรณาการกันระหว่างกองกำกับการสืบสวนสอบสวน 2 ของกองบังคับการสืบสวนสอบสวน บช.น., บก.น.3 และ บก.น.8 ที่ร่วมกันเฝ้าติดตามจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ต่อเนื่องจากเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั้นจับกุมยาบ้าจำนวน 10,300,000 เม็ด มาครั้งนี้จับกุมได้มากกว่า มีของกลาง 2 ชนิด มียาบ้าและไอซ์ มูลค่าในประเทศไทยประมาณ 200 ล้านบาท ถ้านำออกไปจำหน่ายต่างประเทศจะทำให้มีมูลค่าสูงถึง 1,000 ล้านบาท
ผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพ ขณะนี้ยังเหลือผู้ร่วมขบวนการอีกประมาณ 3-4 คน สำหรับยาบ้าล็อตนี้เชื่อว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้านทางภาคเหนือ เตรียมลำเลียงลงไปภาคใต้โดยใช้รถกระบะบรรทุกปะปนมากับกล่องส้มและทยอยมาบางส่วน ส่วนตัวละครนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเฝ้าดูอยู่ว่าใครเชื่อมโยง ตรงนี้ขอไม่เปิดเผยรายละเอียด เชื่อว่าขบวนการลำเลียงยาเสพติดแบบนี้ยังมีต่อเนื่องอยู่ พวกนี้คงไม่หยุด คนเหล่านี้อยู่ในแวดวงนี้ โดยมูลเหตุจูงใจมีหลายปัจจัย เช่น ค่าจ้างในแต่ละครั้ง และเขาก็เชื่อว่าสามารถหลบหรือหนีได้บางครั้งก็เลยลองเสี่ยงดู ตนคิดว่าอีกสาเหตุคือเข้าไปพัวพันลึกไปแล้ว
“ตั้งแต่ที่รัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ผมก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ว่าจะล็อตเล็กหรือใหญ่ โดยเฉพาะเทศกาลเรามีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มข้น ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติดำเนินการและให้นโยบายไปแล้วว่ายังไงก็ต้องต่อสู้กับยาเสพติดไปตลอด ไม่อยากประกาศเป็นสงคราม แต่เป็นวาระแห่งชาติไปแล้ว” ผบ.ตร.กล่าว
