MGR Online - ไฟไหม้โรงงานผลิตเครื่องดื่มโออิชิ ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร เจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำดับไฟจนคุมสถานการณ์ไว้ได้ คนงานเผยเกิดระเบิดที่ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า พนักงานช่วยกันดับไฟไว้ได้ แต่ต่อมาไฟติดลุกลามขึ้นมาอีกครั้ง คาดตัวอาคารเสียหายเกือบร้อยล้านบาท
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ (27 พ.ย.) พ.ต.ต.ศิโรจน์ แนบเนียน สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บริษัท โออิชิเทรดดิ้ง จํากัด ตั้งอยู่เลขที่ 60/68 ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร โครงการ 2 หมู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร หมู่ 19 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลเมืองท่าโขลง เทศบาลเมืองคลองหลวง และเทศบาลใกล้เคียงกว่า 10 คันพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ส่งผลให้มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นมาจนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ทางเจ้าหน้าที่ได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและพนักงานให้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในขณะที่การจราจรด้านบนถนนพหลโยธินขาออกติดขัดอย่างหนักเนื่องจากเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนและมีกลุ่มผู้ใช้แรงงานเดินทางเข้านิคมอุสาหกรรมนวนครเป็นจำนวนมาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงในที่เกิดเหตุพบกลุ่มควันลอยออกจากด้านหลังโรงงานซึ่งเป็นโกดังขนาดใหญ่ กลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นมาจนสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ทางเจ้าหน้าที่ได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องและพนักงาน ให้ออกจากพื้นที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ขณะที่รถดับเพลิงช่วยกันใช้น้ำฉีดเข้าสกัดไฟเพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่บริษัทไม่ให้ผู้สื่อข่าวหรือผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในบริษัทและกั้นพนักงานที่ทำงานอยู่ออกมานั่งรออยู่ที่ลานจอดรถของบริษัทที่จัดไว้ให้และมีลมแรงบริเวณจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถามนายเกรียงไกร (นามสมมติ) บอกว่า ตนเองมีเพื่อนทำงานอยู่ด้านในโรงงานโออิชิ ได้บอกว่าต้นเพลิงเกิดจากตู้ควบคุมไฟฟ้าระเบิด แต่ทางพนักงานช่วยกันใช้ถังเคมีดับลงไปแล้วและไฟได้เกิดติดขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมไหม้และลุกลามไปติดโกดังที่ผลิตนมไมโลกล่องและน้ำชาโออิชิอย่างรุนแรง
ด้าน พ.ต.ท.วิเชียร เหมือนสุวรรณ รอง ผกก.สอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ต.ศิโรจน์ แนบเนียน สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่าไฟได้ไหม้เสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่แท้จริงนั้นต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 มาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 08.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงได้ในวงจำกัดแล้ว แต่ยังมีกลุ่มควันเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าได้ปิดกั้นพื้นที่เนื่องจากยังคงมีควันพวยพุ่งออกมาต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย คาดว่าค่าเสียหายรวมถึงโครงสร้างอาคารเกือบร้อยล้านบาท โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่วิทยาการกองพิสูจน์หลักฐานเขต 1 เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อย่างละเอียด
