xs
xsm
sm
md
lg

เอาผิดส่วย 100 ล้าน'ภูเก็ต' สุดท้ายแค่ปลาซิวปลาสร้อย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


 
การออกมาดับเครื่องชน ตีแผ่ "ส่วย" ในเมืองท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต จากเพจ Spotlight Phuket ซึ่งมี นายธรรมรัตน์ สุวรรณโพธิศรี หรือโจ้ สปอตไลท์ ภูเก็ต เป็นผู้ก่อตั้งและแอดมินเพจ แม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะสั่งย้ายตำรวจที่พัวพันเกี่ยวข้องกับส่วยดังกล่าวแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ากระแสร้อนเขย่าวงการสีกากีครั้งนี้จะไม่จบลงง่ายๆ

เพราะเริ่มต้นการออกมาเปิดเผยเรื่อง "ส่วย" ครั้งนี้ เพจ Spotlight Phuket จะมีการกล่าวอ้างเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.ต.รายหนึ่งที่ใกล้ชิดขั้วอำนาจว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง แต่พอในการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจ จะไม่มีการกล่าวถึง พล.ต.ต.รายดังกล่าวเกี่ยวข้องแค่ไหน อย่างไร ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากการที่ พล.ต.ต.รายดังกล่าว ออกมาขู่จะฟ้องร้องหมิ่นประมาท ทำให้เนื้อหาที่ เพจ Spotlight Phuket ออกมาระบุในการร้องเรียนเพียงอ้าง มีตำรวจจังหวัดภูเก็ตหลายหน่วยพัวพันกับเรื่องส่วยและรีดไถประชาชน มีการอ้างถึงตัวเลขรายการรับส่วยและรีดไถ เฉพาะพื้นที่ อ.ป่าตอง ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อเดือน เป็นเงินที่มาจากการกดขี่ ข่มเหงกลุ่มแรงงานต่างด้าว การใช้ช่องว่างทางกฎหมายกับกลุ่มสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์ และกลุ่มสถานบันเทิง เช่น แรงงานต่างด้าวชาวเนปาลที่อยู่อย่างผิดกฎหมาย ทำมาหากินขายของใน อ.ป่าตอง มีประมาณ 1,000 คน แต่ละคนต้องส่งส่วยให้ตำรวจท่องเที่ยวคนละ 8,000 บาทต่อเดือน เงินเข้ากระเป๋าตำรวจท่องเที่ยวเฉพาะจุดนี้จุดเดียว 8,000,000 บาท
 
เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รักษาการจเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 36 ลงพื้นที่ไปตรวจ โดยพบข้อเท็จจริงจริงมีข้อมูลหลักฐานคำให้การผู้ประกอบการ ภาพวงจรปิด การโอนเงินที่โยงใยไปถึงตำรวจที่ถูกกล่าวหา หลักฐานมากพอที่จะดำเนินคดีอาญาได้ จึงออกคำสั่งตามอำนาจหน้าที่จเรตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติ(ผอ.ศปก.ตร.) ให้ตำรวจที่เกี่ยวพันพ้นจากหน้าที่ ออกนอกพื้นที่ เปิดโอกาสให้การสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการทั้งทางอาญา และวินัย 
 
โดยออกคำสั่งให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต อดีตผกก.สภ.ป่าตอง พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รอง ผกก.สส.สภ.ป่าตอง ไปช่วยราชการที่ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 8 ตามด้วยคำสั่งให้พ.ต.ท.สุระศักดิ์ ใจดี สว.ตม.6 จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.เทียนชัย ชมภู สว.ตม.6 จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.นิมิต สุขประเสริฐ รองสว. กก.สส.1 บก.สส.ภ.8 ร.ต.อ.อดุลย์ บุญราช รองสว.ปป สภ.ป่าตอง ด.ต.พรประสิทธิ์ แว่นทอง ผบ.หมู่ งานสืบสวน สภ.ป่าตอง และด.ต.พงษ์เพชร จันทรัตน์ ผบ.หมู่ ฝ่ายอำนวยการ ตม.6 มาปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากต้นสังกัดเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย

จากนั้นเด้ง พ.ต.อ.ทัศนัย โอฬาริกเดช ผกก.สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต ร.ต.อ.หญิง ศรีสุดา เมืองแก้ว รอง สว.กก.5 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์(ปคม.)บช.ก. ด.ต.จักกรฐิพนธ์ นาคพงศ์ภัค ผบ.หมู่ กก.5 บก.ปคม.บช.ก. และ ด.ต.วรฉัตร ทัพพุน ผบ.หมู่ กก.งานจราจร สภ.ป่าตอง ภ.จว.ภูเก็ต ไปปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิมเช่นกัน

แต่ดูเหมือนการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคลุมเครือ ยังไม่ชัดเจน เหมือนพยายาม"ตัดตอน"ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ "รับส่วย" เพียงแค่ตำรวจระดับเล็ก หรือพวกปลาซิว ปลาสร้อย ทั้งที่การเปิดทางให้มีธุรกิจสีดำ สีเทาในพื้นที่ หากผู้บังคับบัญชาไม่หรี่ตา ไม่มองผ่าน ไม่เกี่ยวข้องกับ "ส่วย" มีหรือตำรวจพื้นที่ ตำรวจระดับ ผู้กำกับ ระดับสารวัตร จะกล้าดำเนินการกันเองเช่นนั้นหรือ

ยิ่งพล.ต.อ.สุชาติ เคยออกมาพูดถึงการกล่าวพาดพิงนายตำรวจยศ พล.ต.ต. ในทำนองว่า เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นมีการระบุถึงนายพลตำรวจ ยศ พล.ต.ต.จริง แต่ไม่ได้ระบุว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับส่วยที่กล่าวหา แต่กล่าวหาว่าพล.ต.ต.เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องแต่งตั้ง ซื้อขายตำแหน่ง ก็ดูเหมือน พล.ต.ต.รายดังกล่าวจะถูกกันออกมาจากเรื่องส่วยเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต

เรื่อง "ส่วย"ในเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต เลยคล้ายๆ กับประเด็นการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ที่แม้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะคึกคัก จะตื่นตัว แต่งตั้งพล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ครั้งดำรงตำแหน่งจเรตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบ ก็เอาผิดได้แค่เพียง 1 นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และ 2 นายพัน เท่านั้น ซึ่งจนถึงป่านนี้สังคมก็ยังไม่รู้ว่าทั้ง 3 นาย เป็นใคร และถูกดำเนินการอย่างไรบ้าง รู้เพียงว่าปลาซิว ปลาสร้อยเท่านั้นที่โดนเชือด ส่วยภูเก็ต ก็ดูกำลังจะซ้ำรอยเช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น