จับโจ๋มือปืนไล่ยิงคู่อริต่างสถาบันย่านรามคำแหง

MGR Online - ชุดสืบสวนบางชัน ตามจับโจ๋ต่างสถาบันไล่ยิงคู่อริดับ 1 สาหัส 2 ย่านรามคำแหง จ่อล่าผู้ร่วมขบวนการอีก 2 เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รรท.รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ รรท.ผบก.น.4 พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูพันธ์ ผกก.สน.บางชัน พ.ต.ท.ธนาวุฒิ เปียผ่อง รอง ผกก.สส.สน.บางชัน แถลงจับกุม นายปรารวี หรือร็อค ชูไทย อายุ 19 ปี นักศึกษาปี 1 สถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง อยู่บ้านเลขที่ 7 ซอยราษฎร์อุทิศ 56 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม. พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็มสแลช สีเทา ทะเบียน 6 กจ 5814 กรุงเทพมหานคร หมวกนิรภัยสีดำยี่ห้ออินเด็กซ์ จับกุมได้ที่หน้าร้านสะดวกซื้อทางเข้าหมู่บ้านเทียนทอง 4 แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กทม.

พล.ต.ต.ธีระพงษ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารเครือข่ายเสรีไทยว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณริมถนนหน้าร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ ตรงข้ามหมู่บ้านสวนตาล ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงและเขตสะพานสูง โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 คนถูกนำตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 คือ นายวีรยุทธ หรือก็อต อุปนันท์สกุล อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าผาก กะโหลกศีรษะยุบ เสียชีวิตต่อมาในวันที่ 15 พ.ย., นายสีหนาท หรือเต้ มนะกนิษฐ อายุ 19 ปี มีบาดแผลบริเวณใบหน้า เสียชีวิต และนายธนากร หรือแบงค์ แดงเดช อายุ 18 ปี จากการตรวจสอบพบว่าได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าท้อง หลัง แขนขวา และสะโพกข้างขวา จากการถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิง ทั้งหมดเป็นนักศึกษาสถาบันเทคโนโลยีแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี

จากการสอบถามนายธนากรให้การว่า เวลาประมาณ 18.30 น. ตนและเพื่อนอีก 2 คนขับขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ หมายเลขทะเบียน 6 กร 7262 กรุงเทพมหานคร โดยมีนายวีรยุทธเป็นผู้ขับขี่ มีนายสีหนาทเป็นผู้ซ้อนกลาง และตนเป็นผู้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์คันดังกล่าว เมื่อขับเข้ามาในถนนราษฎร์พัฒนา (ซอยมิสทิน) จึงรู้ว่ามีจักรยานยนต์ขับขี่ตามมา 1 คัน มีคนร้าย 2 คน ประกบข้างรถของตนและใช้อาวุธปืนยิงเข้ามา 1 นัด ตนและเพื่อนได้ขับรถหนีจนมาถึงบริเวณปากซอยราษฎร์พัฒนา 5 ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด ตนก็ได้เร่งเครื่องหลบหนีอีกจนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คนร้ายได้ยิงเข้ามาจำนวนหลายนัดทำให้นายวีรยุทธได้ขับหลบหนีแต่เสียหลักไปพุ่งชนกับป้ายรถประจำทางและไถลไปชนกับริมทางเท้า โดยนายวีรยุทธและนายสีหนาทชนกับริมทางเท้าและไถลไปถึงร้านซ่อมรถจักรยานยนต์หมดสติในที่เกิดเหตุทั้งคู่ ส่วนตนได้หล่นจากจักรยานยนต์ก่อนที่จักรยานยนต์จะเสียหลักล้มลง ตนก็นอนราบกับพื้นเหมือนคนตายและมีรถคนร้ายได้มาจอดดูข้างๆ และขับหลบหนีไปทางถนนรามคำแหง

พล.ต.ต.ธีระพงษ์กล่าวอีกว่า ภายหลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุได้ คือ นายปรารวี ชูไทย อายุ 19 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 พ.ย. เวลาประมาณ 01.00 น. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน ได้รับการประสานจากนายธนทร ชูไทย อายุ 44 ปี ว่าจะนำตัวบุตรชายคือนายปรารวี มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน และนายธนทรได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบบุตรชายที่หน้าร้านสะดวกซื้อทางเข้าหมู่บ้านเทียนทอง 4 แขวงคลองสิบสอง เขตหนองจอก กทม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายปรารวีมาสอบสวนที่ สน.บางชัน โดยนายปรารวีให้การว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำเนื่องจากก่อนหน้านี้เคยถูกคู่อริไล่ยิง 2 ครั้ง เมื่อมาเห็นกลุ่มผู้เสียหายจึงคิดว่าเป็นคู่อริต่างสถาบัน (เทคโนโลยีบางกะปิ) จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว โดยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเก็บได้ที่ตึกร้าง หลังจากก่อเหตุนำไปโยนทิ้งน้ำ

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร นำตัวส่ง สน.บางชัน และจะติดตามตัวนายชนกฤต ศาสนะสุพินธ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาอีกรายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป