MGR Online - ตำรวจกองปราบฯ สอบปากคำเพิ่มเหยื่ออาเลี้ยงสาวบังคับขายตัว แม่เผยรู้จักกันมาเกือบ 10 ปี เชื่อใจมากฝากลูกไว้ เพราะต้องทำงาน เผยส่อคล้ายคดีแก๊งนกฮูก ผู้เสียหายให้การซัดชายกลัดมันซื้อบริการมีข้าราชการเคยซื้อบริการ
วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 19.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี นำ นางสาวเอ และ ด.ญ.บี (นามสมมติ) เหยื่อผู้เสียหาย จากรณีที่ ด.ญ.บี ถูกอาเลี้ยงบังคับให้ขายบริการทางเพศ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากวานนี้ทางกองปราบปรามและมูลนิธิปวีณา บุกเข้าช่วยเหลือเด็กสาวคนดังกล่าว จากโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดย นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้พาเด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์ทราบ ก่อนนำผลมาประกอบสำนวนทางคดี ทั้งนี้ ทางแพทย์จากการตรวจเด็กสาวสุขภาพแข็งแรง ไม่ติดโรคร้าย เบื้องต้นได้จ่ายยาให้กับเด็กสาวดังกล่าว ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ทางแพทย์ได้นัดหมายเพื่อตรวจและรักษาสภาพจิตใจ ส่วนเรื่องคดีความและการขยายผลเป็นเรื่องของทางตำรวจกองปราบปราม ซึ่งทางมูลนิธิได้ให้ข้อมูลที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีไปหมดแล้ว
ด้าน นางสาวเอ แม่ของเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย เปิดเผยว่า ได้รู้จักกับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นอาเลี้ยงมานานกว่า 10 ปี จึงไว้เนื้อเชื่อใจนำลูกสาวมาฝากไว้ เนื่องจากตนต้องทำงาน ซึ่งไม่ทราบมาก่อนว่าลูกถูกกระทำแบบนี้ จนกระทั่งมารู้จากปากของลูกสาว โดยครั้งแรกไม่เชื่อ แต่ได้ถามย้ำลูกสาว จนเป็นที่แน่ใจจึงตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กับทางมูลนิธิปวีณา
พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า ในส่วนของการขยายผลเบื้องต้น ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนตรวจสอบทางเทคนิคเพื่อหาความเชื่อมโยง ว่า มีใครที่ใช้บริการบ้าง ในส่วนการสอบปากคำทางตำรวจได้เชิญสหวิชาชีพ อัยการ มาร่วมสอบปากคำ เนื่องจากเหยื่อเป็นเยาวชน ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาซึ่งเป็นอาเลี้ยงได้ให้ความร่วมมือ โดยได้เผยถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาซื้อบริการเด็กสาวคนดังกล่าว โดยรายละเอียดขอยังไม่เปิดเผย ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า หากพบว่าข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใคร ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือคนทั่วไป ก็จะดำเนินคดีอย่างไม่ละเว้น โดยในวันพรุ่งนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนำตัวผู้ต้องทั้งสองรายไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ในเวลา 13.00 น.
