MGR Online - พ่อ “น้องจูน” อดีต รปภ.สาวสวยห้างดังย่านรังสิต เผยอาการลูกสาวดีขึ้น รู้สึกตัวแล้ว สามารถชูมือตอบรับได้ แพทย์ดูแลใกล้ชิด ระบุตอนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถ 18 ล้อ น้องจูนไปส่งเพื่อนหลังติวข้อสอบ ครอบครัวเป็นห่วงมากเครียดกินข้าวไม่ได้ ส่วนแม่ร้องไห้ทุกวันเห็นลูกเจ็บ
อ่านเพิ่มเติม : หน้าตาดี มีความคิด “จูน วัลย์ลดา” เน็ตไอดอลในชุด รปภ.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 พ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข่าวที่ น.ส.วัลย์ลดา กันตพลจรัณธร หรือน้องจูน อายุ 21 ปี ที่เคยมีกระแสข่าวเป็นเน็ตไอดอลใช้เวลาในช่วงปิดเทอมทำงานพิเศษเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ห้างสรรพสินค้าซีเปล แอท ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 7 พ.ย. 60 เวลา 01.10 น. ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์บาดเจ็บสาหัส ในคืนวันนั้นมีนายทัศน์พล นิลรุ่งรัตนา อายุ 20 ปี เป็นคนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนน้องจูนบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ศูนย์รังสิต ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี แพทย์ยังต้องดูแลอาการอย่างใกล้ชิด
จากการสอบถาม นายธนันท์รัฐ กันตพลจรัณธร อายุ 43 ปี พ่อของน้องจูน อาชีพรับเหมาก่อสร้าง กล่าวว่า เนื่องจากครอบครัวอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนน้องจูนต้องมาเรียนที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อทราบว่าน้องประสบอุบัติเหตุจึงขึ้นเครื่องบินมาเยี่ยมอาการของน้อง โดยอาการของน้องดีขึ้นและรู้สึกตัวแล้วสามารถชูมือได้ แต่น้องยังมีอาการเจ็บแผลอยู่ ยังอยู่ในช่วงที่แพทย์จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและเฝ้าระวัง ทั้งนี้ น้องยังใส่ท่อหายใจอยู่จึงยังพูดสื่อสารกับใครไม่ได้
ในวันที่เกิดเหตุเพื่อนๆ ได้เข้ามาติวหนังสือเนื่องจากใกล้ช่วงสอบ เมื่อเพื่อนจะกลับบ้านจึงได้ขับรถไปส่ง ขากลับมีรถพ่วงมาตัดหน้าเพื่อเลี้ยวกลับรถในจังหวะที่รถจะหักหลบแต่หลบไม่พ้น จึงไปชนมุมขวาของรถพ่วงอย่างจัง ตอนนี้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นห่วงน้องมาก ทางครอบครัวและตนเองได้มาเฝ้าน้องเป็นเวลา 1 คืนแล้ว ทุกคนกินข้าวไม่ลง รู้สึกเป็นห่วงและสงสาร ส่วนคุณแม่ของน้องร้องไห้ทุกวันที่เห็นลูกเจ็บ ทั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยมีโครงการให้น้องไปศึกษาดูงานที่สหรัฐอเมริกา แต่เมื่อน้องประสบอุบัติเหตุก็อาจจะทำให้เสียโอกาส รวมถึงวันนี้ก็เป็นวันสอบแต่น้องก็ไม่สามารถไปสอบได้ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้ที่ขับรถบนถนนจะกลับรถหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะรถที่มีขนาดใหญ่ควรระวังเพื่อนร่วมทาง อาจจะเกิดอุบัติเหตุลักษณะนี้ได้
ส่วนด้าน พ.ต.อ.อริยะ พันธุฟัก ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ได้สอบสวนคนขับรถ 18 ล้อ ทราบว่ารถพ่วงยอมรับว่ากำลังจะเลี้ยวกลับรถซึ่งอยู่ในช่องทางเลี้ยวและไม่เห็นว่ารถเก๋งขับมาชนท้ายได้อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงประสานของภาพกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดต่อไป