MGR Online - ปธ.สมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่ฯ นำเหยื่อตะเกียงน้ำมันหอมระเหยกว่า 100 ราย ร้อง ปปง.ขอยึดทรัพย์คืน จำนวน 74 ล้าน หลังศาลแพ่งมีคำพิพากษา คดีนี้มีผู้เสียหายตกค้างอีกนับหมื่นคน โดยสำนวนคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนของดีเอสไอ
วันนี้ (6 พ.ย.) เวลา 11.40 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย นำผู้เสียหายในคดีตะเกียงน้ำมันหอมระเหย จำนวนกว่า 100 คน เข้ายื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ ตามมาตรา 49 วรรคท้าย พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อขอรับเงินจำนวน 74 ล้านบาท ต่อ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ วีริยาสรร เลขาธิการ ปปง. โดยมี ร.ต.อ.ไพรัตน์ เทศพานิช เลขานุการกรมสำนักงาน ปปง.เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
นายสามารถกล่าวว่า หลังจากศาลแพ่งมีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของ ปปง.จึงนำผู้เสียหายมายื่นคำร้องให้ทาง ปปง.ใช้อำนาจจ่ายเงินเยียวยา จำนวน 74 ล้านบาท โดยกลุ่มผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้ไม่ได้อยู่ในสำนวนคดีแรกที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2555 ที่มีผู้เสียหายเพียง 95 คน ขณะที่ข้อเท็จจริงคดีนี้ปรากฏชัดแล้วว่ามีผู้เสียหายตกค้างนับหมื่นคนและมีการแจ้งความไว้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แบ่งเป็น 3 สำนวน โดยสำนวนแรกเมื่อปี 2555 สำนวนที่ 2 ปี 2556 และสำนวนที่ 3 ปี 2560 ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2558 ทางดีเอสไอมีการยึดอายัดทรัพย์ไว้อีก 800 ล้านบาท วันนี้จึงได้นำข้อมูลมามอบให้ ปปง.เพื่อประสานไปยังดีเอสไอ ก่อนใช้อำนาจตามกฎหมายนำเงิน 800 ล้านบาท คืนให้แก่ผู้เสียหาย
นายสามารถกล่าวอีกว่า ผู้เสียหายที่มาในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวเกษตรกรซึ่งได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งคดีนี้ใช้เวลามานาน 5 ปีแล้ว แต่ยังไม่สามารถคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ แต่ในขณะนี้ได้มีการแก้กฎหมายของ ปปง.ในมาตรรา 49 วรรคท้าย ว่าด้วยทรัพย์ที่เป็นของผู้เสียหายนั้นคืนให้แก่ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นช่องเดียวที่จะทำให้ประชนที่ตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่ได้รับเงินคืนรวดเร็วที่สุด
ด้าน ร.ต.อ.ไพรัตน์ระบุว่า ทาง ปปง.จะรับเรื่องไว้ พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ.ฟอกเงิน ซึ่งทางศาลแพ่งเองก็มีคำพิพากษาแล้วให้ทรัพย์สินจำนวน 74 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน โดยมีเงื่อนไขจะคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ทาง ปปง.ก็อยู่ระหว่างประสานงานคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย ส่วนเงินจำนวนดังกล่าวที่ทางดีเอสไอยึดอายัดไว้นั้นทาง ปปง.ก็จะดำเนินการประสานงานต่อไป