MGR Online - แก๊งเสื้อแดง “ณัฐวุฒิ-ก่อแก้ว” ตบเท้าเข้ามอบตัวคดีนำเอกสารลับกระทรวงการต่างประเทศมาตีพิมพ์ใน นสพ.ความจริงวันนี้ เมื่อปี 52 ผิดตามมาตรา 123-124 อันเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำเสื้อแดง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก ผกก.สอบสวน กก.6 บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามความผิดตามมาตรา 123 ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อความเอกสาร หรือสิ่งใดๆ อันปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ และมาตรา 124 ผู้ใดกระทำการใดๆ ให้ผู้อื่นล่วงรู้หรือได้ไปซึ่งข้อความ เอกสาร หรือสิ่งใดๆ อันปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
โดยทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนจึงได้พิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจสอบประวัติ แล้วปล่อยตัวกลับไปโดยไม่มีการควบคุมตัวแต่อย่างใด เพราะทั้งคู่เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกจึงต้องปล่อยตัวกลับตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2552 นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ และนายสังคม ดำรงค์ยุทธภูมิ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ไพรินทร์ แจ่มจำรัส พนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคเพื่อไทย กับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ และนางสุพัฒภาย์ พัฒนรพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กับพวก กรณีที่เปิดเผยหนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ลับมาก ด่วนที่สุด โดยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 52 โดยนายณัฐวุฒิ นายจตุพร นายก่อแก้ว ได้นำหนังสือดังกล่าวออกรายการสถานีโทรทัศน์ประชาชน ทางรายการความจริงวันนี้ ทำให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับความเสียหาย จึงได้แจ้งความในความผิดตามประมวลกฎหมาย มาตรา 123 และ 124 หลังทั้งคู่นำเอกสารลับของทางราชการมาเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน และลงหนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ พร้อมนำหนังสือพิมพ์ความจริงวันนี้ ฉบับวันที่ 22-24 ธ.ค.ในหน้าที่ 9 คอลัมน์ สถานีแดง และ นสพ.อีกหลายฉบับ มามอบให้เป็นหลักฐาน
นายวัชระกล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารลับที่สำคัญต่อประเทศ จะนำมาเผยแพร่ไม่ได้ แต่นายจตุพรกลับนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประเทศชาติ จึงเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 123 ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อความเอกสาร หรือสิ่งใดๆ อันปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และมาตรา 124 ผู้ใดกระทำการใดๆ ให้ผู้อื่นล่วงรู้หรือได้ไปซึ่งข้อความ เอกสาร หรือสิ่งใดๆ อันปกปิดไว้เป็นความลับ เพื่อความปลอดภัยของประเทศ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี
นอกจากนี้ นายสังคมได้แจ้งความไว้ที่ สน.นางเลิ้ง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นเรื่องเดียวกันสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้มีคำสั่งให้ บช.น.โอนคดีมาให้ตำรวจกองปราบปราม ทำคดีฝ่ายเดียว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือพนักงานสอบสวนจะได้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวต่อไป ถ้ามีบุคคนใดไม่มาตามหมายเรียกถึงสองครั้งก็จะได้ขอศาลออกหมายจับต่อไป