MGR Online - “เอก น้ำเต้า” คลั่งยา บุกร้านเสริมสวยย่านปทุมวัน จับ 3 สาวเป็นตัวประกัน ก่อนยิงปะทะเจ้าหน้าที่ สุดท้ายถึงทางตันประกาศลั่น “อยากโดนจับตาย” คว้า .38 ดวลเดือดตำรวจ ตัดสินใจปลิดชีพใช้ไทยประดิษฐ์ .38 จ่อยิงหัวตัวเองแต่เกิดด้าน ถูกสวนเข้าท้อง 2 นัด ก่อนฟุบถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
วันนี้ (29 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ เทพจันตา รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ตัวประกันภายในร้านเสริมสวยสุประวีณ์ เลขที่ 185/15 ซอยพระรามที่ 6 ซอย 15 ถนนพระราม 6 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ รอง ผกก.สส.สน.ปทุมวัน และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.ปทุมวัน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น ปลูกติดกันหลายคูหา บริเวณชั้นที่ 1 พบ นายเอกลักษณ์ หรือเอก ประดาอินทร์ ฉายา “เอก น้ำเต้า” อายุ 31 ปี ชาว กทม. ถืออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ลูกโม่ ซึ่งอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งโดยจับตัวประกันผู้หญิงเอาไว้ทั้งหมด 3 ราย ประกอบด้วย น.ส.สุพุด หลอดทอง อายุ 38 ปี ช่างเสริมสวย, น.ส.สุดสาคร ปวงศิริ อายุ 35 ปี และ น.ส.รุ้งนภา นวจิต อายุ 36 ปี ทั้งสองเป็นลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเกลี้ยกล่อมโดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที คนร้ายจึงยอมปล่อยตัวประกันออกมา 2 คน คือ น.ส.สุพุด และ น.ส.สุดสาคร แต่ยังคงกักตัว น.ส.รุ้งนภา ซึ่งอยู่ในอาการตกใจและมุดอยู่ใต้โต๊ะตลอดเวลา
จากนั้นผ่านไปได้ประมาณ 10 นาที คนร้ายได้ออกมายืนที่หน้าประตู พร้อมทั้งตะโกนว่าถูกหักหลัง โดนตำรวจตามไล่ล่าและอยากโดนวิสามัญฯ จนกระทั่งพบกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มดูสถานการณ์อยู่บริเวณชั้น 2 ภายในร้านรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านจุดเกิดเหตุ จึงยิงออกมานอกร้าน 1 นัด ก่อนหันกระบอกปืนทำท่าคล้ายจะยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ จึงถูกยิงสวนเข้าที่ต้นขาขวาจำนวน 1 นัด คนร้ายจึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนที่เตรียมมาจ่อศีรษะตนเอง ก่อนลั่นไกลแต่กระสุนเกิดด้าน คนร้ายจึงวิ่งออกมานอกร้าน พร้อมทั้งยิงเปิดทางอีก 2 นัด ระหว่างนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่จึงยิงสวนไปถูกที่หน้าท้องของคนร้ายอีก 2 นัด จนนั่งล้มฟุบได้รับอาการบาดเจ็บจนถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมทั้งตรวจยึดอาวุธปืนก่อนทางเจ้าหน้าที่จะเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว เพื่อทำการรักษาอาการอย่างเร่งด่วน ขณะนี้พ้นขีดอันตรายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการสอบสวนพยานอาชีพขับจักรยานยนต์รับจ้างในซอยดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพบคนร้ายขี่จักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นแอร็อกซ์ 155 สีเขียว-ดำ หมายเลขทะเบียน 6 กผ 1996 กรุงเทพมหานคร มาจอดที่หน้าร้านเสริมสวย ก่อนเดินถืออาวุธปืนเข้าไปภายในร้าน ด้วยความตกใจจึงยืนดูสถานการณ์อยู่ตรงเสาไฟฟ้า ฝั่งตรงข้ามร้านเสริมสวย ห่างประมาณ 15-20 เมตร เมื่อผ่านไปได้สักระยะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้มาถึงที่เกิดเหตุ 2 นาย พร้อมได้เจรจาให้วางอาวุธปืนก่อนคนร้ายได้ยิงปืนออกมานอกร้าน 1 นัด ก่อนจะยิงเปิดทางอีก 2 นัด โดยวิ่งออกจากร้านไปทางขวา จนถูกกำลังเจ้าหน้าที่ยิงสกัดจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ.ภพธรกล่าวว่า คนร้ายมีอาการเมายาเสพติดจนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ประกอบกับไม่ได้นอนมาหลายวันจึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ส่วนหญิงสาวตัวประกันที่พูดคุยกับคนร้ายนั้นก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน จากการซักถามตัวประกันได้การว่า พูดคุยกับคนร้ายว่าก่อเหตุเนื่องจากสาเหตุใด จนทราบภายหลังว่าขายยาบ้ากว่า 200 เม็ด และยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง แต่ถูกเพื่อนหักหลังทำให้เกิดความเครียดและคลุ้มคลั่ง โดยขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัด ต้องรอสอบปากคำหญิงสาวที่พูดคุยกับคนร้ายอีกครั้ง รวมทั้งสอบปากคำคนร้ายเพื่อสรุปหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริงต่อไป
สำหรับนายเอกลักษณ์ เมื่อปี 2547 เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ในพื้นที่ สน.พญาไท ถูกตัดสินจำคุก 25 ปี 9 เดือน เมื่อพ้นโทษออกมาถูกดำเนินคดีในข้อหาจำหน่ายยาเสพติด พื้นที่ สน.บางรัก ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 8 เดือน เมื่อพ้นโทษได้ 6 เดือน จึงมาก่อเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง