xs
xsm
sm
md
lg

อัยการประสาน สธ.เยียวยาน้องปาล์ม ผู้พิการโดนรถชน ไม่ต้องรอผลคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - แม่พาน้องปาล์ม เด็กวัย 3 ขวบ ร้องอัยการ กรณีโดนรถ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล ขอนแก่น ชนพิการ แต่ยังไม่ได้เยียวยาทางแพ่ง พร้อมประสานสาธารณสุขช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น โดยไม่คำนึงว่ารูปคดีจะผิดหรือถูกอย่างไร

วันนี้ (16 ต.ค.) ที่ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นางปวีณา หาทรัพย์ อาชีพลูกจ้างชั่วคราวใน รพ.ชุมเเพ จังหวัดขอนเเก่น อายุ 30 ปี พร้อม น้องปาล์ม อายุ 3 ขวบ เข้าพบ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอความช่วยเหลือทางกฎหมาย กรณีบุตรชายถูกรถของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ชนพิการมีอาการชาตั้งแต่ราวนม มาถึงช่วงขา ส่งผลให้ไม่มีความรู้สึกเดินไม่ได้ อีกทั้งเวลาขับถ่ายไม่มีความรู้สึกต้องปัสสาวะทางสายยาง

นางปวีณา เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเมื่อวันที่‪ 28 ก.ค. 25‬58 นายเกต นาถมทอง อายุ 68 ปี คนขับรถตำแหน่งอาสาสมัครของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านใหม่ ได้ขับรถกระบะเชฟโรเลต ทะเบียน บว 4942 ขอนแก่น ชนจักรยานยนต์สามีเเละลูกของตน ซึ่งตนได้เเจ้งความดำเนินคดีอาญา เเละฟ้องเรียกค่าเสียหายทางเเพ่งแล้ว ต่อมาทราบจากอัยการว่าศาลแขวงขอนแก่นได้มีคำพิพากษาจำคุกนายเกต เป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 3,000 บาท รอลงอาญา 2 ปีเเล้ว แต่คดีแพ่ง ผู้เสียหายมี นายศราวุฒิ เจิมขุนทด สามี ซึ่งได้รับบาดเจ็บกับน้องปาล์ม และตนเป็นโจทก์ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข เป็นจำเลยที่ 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นจำเลยที่ 2 เรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ซึ่งศาลนัดไกล่เกลี่ยกันมาหลายครั้ง แต่ไม่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจนได้ ซึ่งคดีนี้ หลังจากยื่นฟ้องคดีแพ่ง ศาลไม่อนุญาตให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมด แต่ให้วางค่าธรรมเนียมศาลครึ่งหนึ่ง ตนต้องหาเงินมาวางค่าธรรมเนียมศาลไป 5 หมื่นบาท ซึ่งหยิบยืมเงินจากเพื่อนบ้าน ทั้งต้องจ้างทนายความสู้คดีเอง จนหมดทุนสู้คดี ทั้งมีความรู้สึกเกี่ยวกับคดี ว่า การที่ตนไม่ได้ฟ้องนายเกต เข้ามาในคดีแพ่งมาตั้งแต่แรก เพื่อเชื่อมโยงรูปคดี ว่า คนขับรถที่ทำละเมิดกับกระทรวงสาธารณสุขมีความเกี่ยวข้องกันในลักษณะตัวการตัวแทน หรือเป็นนายจ้างลูกจ้าง อาจจะเสียเปรียบทางคดีได้ และไม่รู้ว่าคดีจะเป็นอย่างไรต่อไป ขณะที่บุตรชาย ต้องเข้ารักษาพยาบาลที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น เนื่องจาก น้องปาล์ม มีร่างกายพิการ เพราะอุบัติเหตุ ทำให้ยืนทรงตัวไม่ได้ และมีปัญหาด้านขับถ่าย ตนเป็นคนจนแต่กลับไม่รู้สิทธิว่ารัฐมีหน่วยงานทางกฎหมายช่วยเหลือ แต่กลับไปยืมเงินชาวบ้านมาสู้คดีเอง จนบัดนี้คดีผ่านมาสองปี ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานใดเลย

ด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง กล่าวว่า สำนักงานอัยการสูงสุด รับเรื่องไว้ โดยจะประสานความช่วยเหลือดังนี้ หนึ่ง ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ตนได้ประสานทางกระทรวงสาธารณสุขไปแล้วเพื่อขอความช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นโดยไม่คำนึงว่ารูปคดีจะผิดหรือถูกอย่างไร เนื่องจากยังไม่เห็นสำนวน สอง ประสานงานกับกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรมหรือเงินอื่นๆเพราะผู้เสียหายได้รับความเสียหายจริงและศาลพิพากษาแล้วว่าฝ่ายคนขับรถเป็นฝ่ายผิด สาม เรื่องคดีความ ทางศูนย์ช่วยเหลือได้สำเอกสารสำนวนความไว้แล้ว เพื่อศึกษาการดำเนินกระบวนพิจารณาความแพ่งว่าต้องเข้าไปเสริมหรือแก้ไข หรือให้คำแนะนำในจุดใด คดีนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าชาวบ้านยากจนอยู่แล้วไม่มีความรู้ว่า มีหน่วยงานรัฐพร้อมช่วยเหลือทางคดี เช่น เมื่ออัยการฟ้องคนขับ ฝ่ายผู้เสียกลับไม่ได้เข้าเป็นโจทก์ร่วม ไม่ขอเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมาแต่แรก และเป็นตัวอย่างว่า เมื่อมีเรื่องเดือดร้อนต้องการช่วยเหลือให้ไปพบสำนักอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด เพื่อไม่ให้รูปคดีเสียหาย หรือคดีขาดอายุความ แม้ตกเป็นผู้ต้องหาก็มาขอคำปรึกษาเกี่ยวกับสิทธิของผู้ต้องหาเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมในทางคดี

“ตรวจสอบดูเอกสารพบว่า ในส่วนคดีอาญามีคำพิพากษาไปเเล้ว โดยไม่ได้ยื่นคำร้องเพื่อเรียกค่าเสียหายทางเเพ่งเกี่ยวเนื่องอาญาไปด้วย คดีนี้ยืนยันว่ายังไม่หมดอายุความเพราะเป็นคดีเเพ่งเกี่ยวเนื่องอาญา ผู้เสียหายยังสามารถฟ้องคดีเเพ่งได้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพบพนักงานอัยการแล้ว น.ส.ปวีณา จะได้พาบุตรชายไปร้องขอความช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม โดยจะขอพบ นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอความช่วยเหลือจากองทุนยุติธรรมต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น