ข่าวลึกปมลับ : เปิดลึก เส้นทาง "บิ๊กตู่" คัมแบ็กนายกรัฐมนตรี

รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันอังคารที่ 10 ตุลาคม 2560 ตอน เปิดลึก เส้นทาง "บิ๊กตู่" คัมแบ็กนายกรัฐมนตรี



เรื่องที่เนื่องมาจาก คำยืนยันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติที่บอกออกมาภายหลังหารือร่วมกับ โดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา พลเอกประยุทธ์ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าได้บอกกับ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาว่า  

จะเดินหน้า ตามหลักประชาธิปไตยสากล ด้วยการเดินตาม โรดแมปที่เคยประกาศไว้ ในปีหน้า ปี 2561จะประกาศวันเลือกตั้ง โดยไม่มีการเลื่อนใดๆ ทั้งสิ้น ถือเป็นการระบุแบบชัดๆของหัวหน้าคสช.ในเรื่องโรดแมปการเลือกตั้งของไทย ที่ต้องรอดูกันว่า สุดท้ายแล้วจะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่

เมื่อข่าวกำหนดการเลือกตั้งกระฉ่อนออกมาทำให้คำถามที่คนไทยอยากรู้กันมากดังขึ้นอีกครั้งในเวลานี้ ก็คือ "บิ๊กตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีเส้นทางการเมืองหลังจากลงจากอำนาจ ต่อไปอย่างไร จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ ตามที่มีการคาดการณ์และประเมิน ไว้หรือไม่  

ช่องทางการกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของบิ๊กตู่ เมื่อดูตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน  จะพบว่ามีอยู่สองช่องทางที่บิ๊กตู่จะใช้ช่องทางใดช่องทางหนึ่งผ่านเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ

แต่ขณะนี้สามารถยืนยันอย่างร้อยเปอร์เซนต์ได้ว่า พลเอกประยุทธ์ ก็ไม่สามารถลงเลือกตั้งเป็นส.ส.ได้แล้ว เนื่องจากจะขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ด้วยที่คุณสมบัติของบิ๊กตู่ขณะนี้ต้องห้ามตามที่ระบุในบทเฉพาะกาล มาตรา 263  ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่บัญญัติไว้ว่า

 "เมื่อมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกภายหลังจากวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมิได้ เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติภายในเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้"

โดยมาตรา 263 วรรคเจ็ดนี้ ให้นำมาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลมกับคณะรัฐมนตรี, ผู้ดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติด้วย ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ประกาศใช้เมื่อ  6เมษายน 2560 เท่ากับว่า ครบ 90วัน ไปเมื่อ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ดังนั้น บิ๊กตู่ ก็ลงเลือกตั้งไม่ได้แล้ว แต่ยังจะมาเป็นายกฯได้เพราะมีรัฐธรรมนูญเปิดทางไว้ให้ โดยใช้ช่องทางที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่ต้องผ่านการเป็นส. ส.

ซึ่งที่ผ่านมา หากดูจากท่าทีของบิ๊กตู่ ก็จะพบว่า หัวหน้าคสช.ประกาศมาตลอดว่า ไม่ลงเล่นการเมือง ไม่สมัครส.ส. เรื่องการลงสมัครส.ส.จึงไม่อยู่ในหัวคิด พลเอกประยุทธ์อยู่แล้ว

แต่บันได ที่จะทำให้ หัวหน้าคสช. กลับสู่ทำเนียบได้อีกครั้งยังมีช่องทางที่เปิดกว้างอยู่ ด้วยเงื่อนไขรัฐธรรมนูญอีกเช่นกัน เพราะรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ เขียนล็อกไว้ว่า นายกฯต้องมาจากส.ส. โดยช่องทาง ที่จะกลับมาได้ ก็มี 2 กรณี

กรณีแรก คือการเป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ที่พรรคการเมืองต้องประกาศในช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เป็นการเข้ามาเป็นนายกฯตามช่องทาง รัฐธรรมนูญมาตรา 88ที่สรุปได้ว่า

 “ในการเลือกตั้งทั่วไป  ให้พรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแจ้งรายชื่อบุคคล ซึ่งพรรคการเมืองนั้นมีมติว่าจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เกินสามรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง  และให้กรรมการ การเลือกตั้งประกาศรายชื่อบุคคลดังกล่าวให้ประชาชนทราบ “

สำหรับ รายชื่อบุคคล ที่พรรคการเมืองจะเสนอให้เป็นนายกฯตอนช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จะมีหลักเกณฑ์คือต้องมีหนังสือยินยอมของบุคคลซึ่งได้รับการเสนอชื่อ และต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรี ตามรธน.ฉบับปัจจุบัน

พลเอก ประยุทธ์ ไม่อยากใช้ช่องทางนี้คัมแบ็คมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกรอบ ก็ไม่เป็นไร เพราะยังมีทางเลือกอีกหนึ่งช่องทาง ที่น่าจะถูกใจพลเอกประยุทธ์มากกว่า ช่องทางนี้ดีอย่างไร ทำไมถึงคาดว่าจะถูกใจพลเอก ประยุทธ์ ก็ต้องติดตามรายละเอียดในตอนต่อไป