xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : คดีทุจริตตามหลอนชินวัตร จับตา "โอ๊ค"หลุดฟอกเงิน!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


รายการ “ข่าวลึก ปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม ผู้จัดการ 360 วันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2560 ตอน คดีทุจริตตามหลอนชินวัตร จับตา "โอ๊ค"หลุดฟอกเงิน! 



มรสุมคดีความตระกูล”ชินวัตร”ยังไม่จบ เมื่ออัยการสูงสุด เตรียมตั้งแท่น ฟื้นคดีความของทักษิณ ชินวัตร พี่ใหญ่ตระกูลชินวัตร ที่มีคดีความถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ศาลฎีกาฯจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว เพราะทักษิณ หนีคดี

4คดีใหญ่ ที่ถูกรื้อขึ้นมาพิจารณา คือ คดีปล่อยกู้ของเอ็กซิมแบงก์ หรือธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย , คดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องทักษิณเป็นจำเลยในคดีแปลงสัญญาสัมปทานโทรคมนาคม เอื้อประโยชน์ธุรกิจของตัวเองและครอบครัว ,คดีหวยบนดิน และสุดท้าย คดีทุจริตการปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทยฯ

เท่ากับว่า หากมีการพิจารณาคดีลับหลัง ทักษิณ ตามพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฉบับปัจจุบัน ที่มีการเขียนเพิ่มให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ สิ่งที่ สังคม เคยสงสัย ว่าทักษิณ กระทำผิด อีกหลายกรรมหลายคดี ก็จะได้กระจ่างชัด

 หากคดีไหน ไม่ผิด ศาลก็จะได้ยกฟ้องไป แต่หากคดีไหน ศาลตัดสินว่า ผิด ทักษิณที่ถึงตอนนี้ การกลับประเทศ ประตูถูกปิดสนิทแล้ว โอกาสจะกลับมาไทยได้ก็ยิ่งยาก โอกาสแทบจะไม่มีเหลืออยู่เลย

โดยเฉพาะคดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย หากมีการพิจารณาไต่สวนคดีในศาล  ก็จะได้ทำให้ สังคมได้รับรู้กันเสียทีว่า “บิ๊กบอส”ที่สั่งอดีตบอร์ด และเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย ให้ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มกฤษดามหานคร คือ ใครกันแน่ ใช่ ทักษิณ หรือไม่

และก็เป็นคดีกรุงไทย อีกเช่นกัน ที่กำลังจะตามหลอน คนตระกูล ชินวัตร อีกหนึ่งคน นั่นก็คือ “โอ๊ก-พานทองแท้ ชินวัตร”ลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของทักษิณ

หลังล่าสุด เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ที่ทำคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทย ได้ส่งหมายเรียกไปที่บ้านพักของ พานทองแท้ กับพวกรวมทั้งหมด4คน ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 24 ต.ค.นี้ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อหาฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน

คดีพานทองแท้ มีข้อสงสัยกันมาก ว่าทำไมอัยการถึงไม่ยื่นฟ้องไปพร้อมกับ อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงไทยและอดีตผู้บริหารกลุ่มกฤษดามหานคร  ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ ตั้งแต่แรก ซึ่งคดีนั้น ศาลฎีกาฯ ตัดสินจำคุกผู้เกี่ยวข้องกันไปหมดแล้ว

ตอบได้ว่าเป็นเพราะหลังคตส.สอบสวนคดีดังกล่าว แล้วส่งสำนวนไปให้อัยการ ทางอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่า  การที่ คตส. ขอให้ดำเนินคดีกับนายพานทองแท้กับพวก รวม 4 คน ฐานรับของโจร เป็นการกระทำความผิดหลังจากการกระทำความผิดของจำเลยคดีกรุงไทย คือพวกอดีตผู้บริหารกรุงไทยและผู้บริหารกลุ่มกฤษดามหานคร ทำสำเร็จไปแล้ว ในเรื่องการปล่อยและรับเงินกู้ธนาคารกรุงไทย

แต่กรณีของพานทองแท้กับพวก  เป็นเรื่องการสอบสวนว่า ผู้เกี่ยวข้องกับการได้เงินกู้ดังกล่าว  ได้ให้ผลประโยชน์กับพานทองแท้และพวก จึงเป็นคนละส่วนกัน และที่สำคัญ พานทองแท้กับพวก มิได้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงไม่อาจส่งฟ้องต่อศาลฎีกาฯ พ่วงไปกับจำเลยคดีกรุงไทยได้ ต้องแยกฟ้องต่อศาลอาญาที่มีเขตอำนาจ

 อีกทั้ง คตส.ตอนนั้นใช้อำนาจแบบเดียวกับป.ป.ช. จึง ไม่มีอำนาจไต่สวนนายพานทองแท้กับพวก เพราะมิได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมิได้เป็นตัวการ ผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด

จึงทำให้ต่อมา มีการส่งสำนวนไปให้ดีเอสไอ สอบสวน ในสองความผิดคือคดีรับของโจรและคดีฟอกเงิน โดยอายุความของคดี ต้องให้เริ่มต้นนับจากวันที่พบการกระทำความผิดเกิดขึ้น  ซึ่งวันนี้คดีรับของโจร หมดอายุความไปแล้ว ขณะที่ คดีฟอกเงิน จะหมดอายุความในช่วงมิถุนายน ปีหน้า

หาก ดูจากทิศทางคดีที่ผ่านมา มีข่าวว่า พานทองแท้ อาการโคม่า อาจตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ เพราะดูในรูปคดีมีหลักฐานมัดแน่น แต่ก็มีนักกฎหมายบางคนชี้ช่องไว้ว่า พานทองแท้ ก็มีโอกาส รอดคดีเช่นกัน แต่จะเกิดขึ้นได้ จะต้องมี ใครบางคน ที่จะตกเป็นผู้ต้องในคดีนี้ ต้องยอม เอาตัวเข้าแลก ขอรับผิดชอบ เพื่อกัน ให้ พานทองแท้ หลุดจากคดี

วิธีการก็คือ ต้องมีใครบางคนที่ถูกกล่าวหาในคดีขอรับผิดคนเดียว โดยให้การตัดตอนไปว่า  เรื่องที่มีอดีตผู้บริหารกฤษดามหานคร ได้โอนเงินเข้าบัญชี พานทองแท้ สองครั้ง ครั้งแรก26 ล้านบาท.และครั้งที่สอง10  ล้านบาท  เป็นเรื่องของความเข้าใจผิด โอนเงินเข้าบัญชีผิด ไปเข้าบัญชีพานทองแท้

ซึ่งคนๆนั้น ต้องยอมสารภาพ ต้องยอมเสี่ยง รับผิดทั้งหมด เพื่อกัน พานทองแท้ ให้ออกจากคดี ชื่อจะได้หลุดในชั้น ดีเอสไอ-อัยการ ไปเลย ไม่ต้องไปเสี่ยงลุ้นคดีในชั้นศาล

แง่มุมการหลบเลี่ยงต่างๆนานา ย่อมคิดได้ แต่ก็ใช่ว่า ดีเอสไอ จะยอมรับฟังคำให้การ จนตัดชื่อ พานทองแท้ ออกจากคดีกันแบบง่ายๆ เพราะหากทำแบบนั้น ยุติคดีกันง่ายๆ ชื่อพานทองแท้หลุดไปในตอนท้ายๆ ก่อนสั่งฟ้อง ดีเอสไอกับอัยการถูกวิจารณ์หนัก จมธรณีอย่างไม่ต้องสงสัย
กำลังโหลดความคิดเห็น