xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งว้าใต้ไฮเทค! ใช้โซเชียลออเดอร์ยานรก ใช้ กทม.เป็นที่พักยาก่อนล่องใต้ค่า 600 ล. สารภาพสิ้นขนแล้ว 5 ครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ชุดสืบสวน บก.น.8 จับแก๊งค้ายานรกกลุ่มว้าใต้กลางกรุงรายใหญ่ ยึดยาบ้า 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 400 กิโลกรัม มูลค่า 600 ล้านบาท ขณะลำเลียงลงสู่พื้นภาคใต้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพจัดจำหน่ายตามออเดอร์ ผ่านโลกโซเชียล ขนมาแล้ว 5 ครั้ง

วันนี้ (8 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายฉัตรชัย พระพิมล อายุ 23 ปี, นายพรชัย ช่างแกะ อายุ 25 ปี, นายขวัญ บรรจงชาติ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางรวมมูลค่า 6 ล้านบาท อาทิ ยาบ้า 1 ล้านเม็ด, ไอซ์ 400 กิโลกรัม, เคตามีน ชนิดน้ำ จำนวน 148 ขวด, เคตามีน ชนิดเกล็ด น้ำหนักประมาณ 600 กรัม อุปกรณ์การผลิต เคตามีนชนิดน้ำ จำนวน 10 รายการ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สส.น.8 สืบทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด ลักษณะเป็นผู้ค้ารายใหญ่ จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ถูกจับกุมจะนำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ที่บ้านเลขที่ 8/39 หมู่บ้านอินดี้ ต.บางบ่อ อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงได้ร่วมกันเดินทางไปยังบ้านดังกล่าวในวันที่ 7 ต.ค. และได้ดักซุ่มรอบริเวณหน้าบ้าน จนถึงเวลาประมาณ 02.30 น. ผู้ถูกจับทั้ง 3 ราย ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆฐ 6485 กรุงเทพมหานคร มาจอดบริเวณประตูบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเพื่อทำการขอตรวจค้นภายในรถยนต์ ผลการตรวจค้นพบยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวนประมาณ 1 ล้านเม็ด

ต่อมาผู้ถูกจับกุมให้การรับสารภาพ ว่า ยังมียาเสพติดซุกซ่อนอยู่ภายในบ้านอีกหลังหนึ่ง เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้นำกำลังไปตรวจค้นบ้านเลขที่ 86/455 หมู่บ้านโมดิ วิลล่าบางนา ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ผลการตรวจค้นพบ ยาเคตามีน ชนิดน้ำ จำนวน 148 ขวด, ยาเคตามีน ชนิดเกล็ด 600 กรัม, อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตเคตามีนชนิดน้ำ และกุญแจรถยนต์ต้องสงสัย จากการตรวจสอบกุญแจรถยนต์ พบว่า เป็นกุญแจของรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮภ 4104 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่บริเวณข้างบ้านหลังดังกล่าว จึงได้ไปตรวจค้นภายในรถตู้คันดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ ยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 290 กิโลกรัม เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง

ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมแฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และ “ร่วมกันผลิตและมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตำรวจได้ให้ความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่ลักลอบขนเข้ามาในประเทศไทย ทั้งเส้นทางในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทำงานร่วมกับทหารและฝ่ายปกครอง สามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก ส่วนยาเสพติดล็อตนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า มาจากกลุ่มว้าใต้ เพราะมีสัญลักษณ์นิ้วหัวแม่มือ และหมายเลข 999 และพบว่า ไอซ์ ได้รับความนิยมในภาคใต้ เพื่อส่งลำเลียงไปในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย จากนี้จะขยายผลหาผู้อยู่เบื้องหลังต่อไป

ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ระบุว่า ทำเป็นครั้งที่ 5 แล้ว และจะส่งจำหน่ายตามออเดอร์ที่สั่งซื้อทางโซเชียลมีเดีย ตำรวจใช้เวลาในการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ค้ารายนี้มากว่า 1 เดือน ทั้งนี้ หากปล่อยให้ยาเสพติดจำนวนดังกล่าวหลุดออกไปประเทศที่ 3 จะมีมูลค่ามากกว่า 600 ล้านบาท เพราะเป็นที่ต้องการมากในต่างประเทศ


อีกราย ตำรวจ สน.ตลิ่งชัน จับกุม​นายปธานิน บุญวงศ์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหา ​พร้อมด้วย ของกลาง คือ ยาบ้า จำนวน 72,000 เม็ด (36 มัด) ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายสีดำ หลังรับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีการลำเลียงยาเสพติดสู่ภาคใต้ โดยแจ้งตำหนิรูปพรรณเป็นชายไทยอายุประมาณ 20 ปี สวมเสื้อแขนสั้นสีเทา สวมกางเกงยีนส์ขายาวโดยจะเดินทางมาโดยรถยนต์ตู้โดยสารสาธารณะ (รถร่วม บขส.) กรุงเทพฯ - ประจวบ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตั้งจุดตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะ หน้าศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสอง ต่อมาเวลาประมาณ 04.20 น. พบรถตู้สาธารณะคันดังกล่าว จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจบุคคลภายในรถตู้ และพบชายตำหนิรูปพรรณตรงตามที่ได้รับแจ้งนั่งอยู่ภายในรถ ซึ่งมีอาการมีพิรุธต้องสงสัย จึงได้แสดงตัวขอทำการตรวจค้น ผลพบของกลางยาบ้าจำนวน 72,000 เม็ด (36 มัด) ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายสีดำที่ผู้ต้องหาสะพายอยู่

ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นจับกุม จากการสอบถาม นายปธานิน รับว่า ยาบ้าของกลางดังกล่าวเป็นของตนเองจริง โดยเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2560 ได้รับการติดต่อจากนายครีน (ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง) จากทางโทรศัพท์ โดยได้ว่าจ้างให้เดินทางมารับยาบ้าที่ อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม แล้วให้นำไปส่ง ที่ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะให้ค่าจ้างจำนวน 72,000 บาท เมื่อตอบตกลง จึงได้เดินทางมาที่ห้องเช่าไม่ทราบเลขที่ แถวบริเวณอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นห้องเช่าของนายครีน เป็นผู้เช่าไว้ ต่อมาได้มีชาย 2 คน ขับรถยนต์สีดำ ไม่ทราบยี่ห้อรุ่นสีและทะเบียน มารับและได้ให้ตนขึ้นไปรถจากนั้นได้ให้ตนใช้ถุงดำคลุมศีรษะ เพื่อที่จะไม่ให้เห็นเส้นทางที่ไปรับยาบ้า

เมื่อได้รับยาบ้ามาแล้ว จึงได้มาส่งตนที่ห้องเช่า จึงได้นำยาบ้าบรรจุลงในกระเป๋าเป้สะพายสีดำที่ตนเองเตรียมมา และได้เดินทางขึ้นรถยนต์ตู้โดยสารสายกรุงเทพฯ - ประจวบ เพื่อจะเดินทางนำยาบ้าไปส่งให้กับนายครีน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น จับกุมตัวไว้ได้ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดยตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมา พบว่า ในพื้นที่ สน.ตลิ่งชัน มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดมากที่สุด เพราะผู้รับจ้างขนส่งยาเสพติด จะใช้สถานีขนส่งสายใต้ เป็นจุดขึ้นรถลงใต้

กำลังโหลดความคิดเห็น