กลุ่มคนร้ายดักปล้นเงินสกุลญี่ปุ่น 196 ล้านเยน หรือประมาณ 60 ล้านบาท จากนักธุรกิจค้าทองคำ กลางที่จอดรถคอนโดมิเนียมย่านรัชดาฯ แถมทำร้ายเหยื่อบาดเจ็บเย็บ 20 เข็ม พร้อมฉกปิกอัพฟอร์ดหลบหนี ตำรวจเชื่อคนในรู้เห็น เพราะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่านำเงินมาเก็บบนคอนโดดังกล่าว “ชาญเทพ” สั่งเร่งสกัดจับ พร้อมประสานสถาบันการเงินตรวจสอบการแลกเงินเยน
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ สน.พหลโยธิน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส รักษาการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามคดี กลุ่มคนร้ายปล้นเงินเยน 196 ล้านเยน หรือ คิดเป็นเงินไทย 60 ล้านบาท จากผู้เสียหายที่เป็นนักธุรกิจค้าทองคำ ในคอนโดมิเนียมย่านถนนรัชดาภิเษก ว่า คดีนี้ ตำรวจได้รับการแจ้งเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า มีกลุ่มคนร้ายมาดักรอผู้เสียหายที่ลานจอดรถชั้น 5 ของคอนโดมิเนียมดังกล่าว ก่อนจะทำร้ายผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ เย็บไป 20 เข็ม และนำรถกระบะฟอร์ด สีส้ม ของผู้เสียหายไปด้วย
จากการสอบสวนผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของเงิน ให้การว่า ส่วนตัวไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งทางธุรกิจกับใคร เพราะส่วนตัวทำธุรกิจนี้มาประมาณ 5 ปี และมีการขนเงินเข้ามาแบบนี้ โดยการขอดีแคลร์อย่างถูกต้อง
รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังระบุว่า ในเรื่องของการขนเงินดังกล่าวมีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่าจะนำเงินมาเก็บไว้ที่คอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ ก็เป็นคนในกลุ่มของผู้เสียหายเอง ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดแล้ว ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเชื่อว่า คดีนี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน และให้น้ำหนักในเรื่องของการปล้นทรัพย์ เป็นประเด็นหลัก
พร้อมกันนี้ รรท.ผบช.น. ได้สั่งการทุกพื้นที่ในสถานีตำรวจนครบาล ที่มีสถาบันการเงินอยู่ในพื้นที่ ให้ตรวจสอบเรื่องของการแลกเงินเยน เพื่อหาเบาะแสคนร้ายและประสานเรื่องการขนเงินข้ามชายแดนด้วย
ทางด้าน พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการและให้นโยบายมาแล้วในเรื่องของการติดตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้ได้สั่งให้สกัดจับรถยนต์กระบะฟอร์ดที่คนร้ายปล้นไปจากผู้เสียหาย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุ รวมทั้งเส้นทางหลบหนีของคนร้ายด้วย