ศุลกากรร่วมกับ ปธส.สนามบินสุวรรณภูมิ จับกุม 3 ผู้ต้องหาชาวเวียดนาม ลักลอบขนนอแรดข้ามชาติจำนวน 15 นอ มูลค่ากว่า 15 ล้าน ขณะกำลังจะต่อเครื่องบินไปยังเมืองฮานอย สารภาพได้รับว่าจ้างจากชาวแองโกลาคนละ 32,000 บาท
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 24 ก.ย. 60 เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำสนามบินสุวรรณภูมิ ควบคุมตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย 1. นายเยือง บา เหงีย อายุ 27 ปี 2. นางสาวเหงียน ถิ ทู จาง อายุ 30 ปี และ 3. นางสาวฟาม ธิ แทง ฮวย อายุ 56 ปี ทั้งสามคนเป็นคนสัญชาติเวียดนาม ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาลักลอบนำเข้านอแรดผิดกฎหมาย โดยคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมกับของกลาง เป็นนอแรดขนาดต่างๆ ที่ถูกตัดเป็นชิ้น จำนวน 15 ชิ้น น้ำหนักรวม 7.4 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท และกระเป๋าเดินทางจำนวน 6 ใบ มายัง สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อลงบันทึกประจำวันและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในข้อหานำผ่านราชอาณาจักรซึ่งซากสัตว์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และฐานนำผ่านสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฉบับที่ 3 พ.ศ. 2557 มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 ประกอบมาตรา 16 มาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482 อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรืออนุสัญญาไซเตส
สำหรับการจับกุมสามผู้ต้องหารายนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปรามของกรมศุลกากรได้สืบทราบว่าจะมีเที่ยวบินที่เดินทางมาจากแถบแอฟริกา และพบว่า มีผู้โดยสารที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายการเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย จึงตรวจสอบสายการบินเอธิโอเปีย เที่ยวบิน ET 628 ซึ่งจะเดินทางจากเมืองลูอันดา ประเทศแองโกลา ต่อเครื่องบินที่แอสดิสบาบา ประเทศเอธิโอเปีย มายังประเทศไทย และจะต่อเครื่องบินไปยังเมืองฮานอย เวียดนาม เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าระวังและขอตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารเป้าหมายทั้งสามราย โดยนำกระเป๋าเข้าเครื่องเอกซเรย์ก็พบกับวัตถุต้องสงสัยคล้ายกับนอแรด จึงเปิดกระเป๋าทั้งสามใบ พบว่า มีนอแรดซุกซ่อนมาในกล่องขนมและมีห่อขนมต่างๆ จำนวนมากปิดทับหวังตบตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดของกลางพร้อมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสามคนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่ผู้ต้องหาทั้งสามให้การรับสารภาพ ว่า กระทำความผิดจริงโดยทั้งสามคนเดินทางไปทำงานที่เมืองแองโกลา และมีชาวแองโกลาได้มาว่าจ้างให้นำกระเป๋าเดินทางทั้ง 6 ใบ เดินทางมายังประเทศเวียดนาม โดยจะได้ค่าจ้างต่อคนคิดเป็นเงินไทย คนละ 32,000 บาท จึงตกลงรับงานดังกล่าวและเดินทางจากต้นทางมายังประเทศไทย เพื่อต่อเครื่องไปยังเมืองฮานอย จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวเสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสามรายเข้าห้องขังเป็นที่เรียบร้อย และเตรียมรวบรวมหลักฐานต่างๆ ส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนของกลางหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้ว จึงมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ปราบปรามการกระทำผิดทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจำสนามบินสุวรรณภูมินำส่งกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อเก็บรักษาในตู้เซฟอย่างแน่นหนา พร้อมทั้งตั้งกรรมการตรวจรับของกลางจำนวน 3 ท่าน เพื่อป้องกันการสูญหายของนอแรดในครั้งนี้