ศาลฎีกายกคำร้อง 13 อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ขอขยายฎีกาคดีแพ่ง ที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ ทอท.จากกรณีชุมนุมในสนามบินปี 51 จำนวน 522 ล้านบาทเศษ ส่งผลให้คดีจบตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ รอการบังคับคดีชดใช้
ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (21 ก.ย.) เวลา 13.30 น. ศาลนัดอ่านคำสั่งศาลฎีกา กรณี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 13 คน แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาฎีกา ในคดีที่ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ พล.ต.จำลอง, นายสนธิ, นายพิภพ ธงไชย, นายสุริยะใส กตะศิลา, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายอมร อมรรัตนานนท์, นายนรัญยู หรือศรัณยู วงษ์กระจ่าง, นายสำราญ รอดเพชร, นายศิริชัย ไม้งาม, นางมาลีรัตน์ แก้วก่า และนายเทิดภูมิ ใจดี แกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 13 คน ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็นเงิน 522,160,947.31 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 3 ธ.ค. 51 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ จากกรณีร่วมกันชุมนุมที่สนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551
ศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในเวลา 14.45 น. พิจารณาเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิจารณายกคำร้องของจำเลยมานั้นชอบแล้วตามประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง
ขณะที่วันนี้ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ จำเลยที่ 7, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จำเลยที่ 6 และนายอมร อมรรัตนนานนท์ จำเลยร่วมอีกคนก็มาฟังคำพิพากษาด้วย
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่ง โดยศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้ 13 แกนนำพันธมิตรฯ ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาท ซึ่งช่วงที่จะยื่นฎีกาปรากฏว่าทนายความฝ่ายแกนนำพันธมิตรฯ ดำเนินการไม่ทันเวลา 30 วัน โดยเมื่อทนายความพยายามยื่นคำร้องขอขยายเวลาฎีกาซึ่งอ้างเหตุสุดวิสัยการปิดหมายแจ้งคดีต่อศาลแพ่งที่เป็นศาลชั้นต้น ปรากฏว่าศาลยกคำร้อง ซึ่งศาลอุทธรณ์ก็มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 พ.ค. 59 เช่นเดียวกันเห็นว่าศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีร่วมกันชุมนุมปิดสนามบินโดยชอบแล้ว โดยเมื่อศาลฎีกายกคำร้องขอขยายเวลาฎีกาของจำเลยแล้วผลแห่งคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คือให้ชดใช้ค่าเสียหาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคดีอาญากรณีการชุมนุมในสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ที่อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พล.ต.จำลอง, นายสนธิ และแกนนำ พธม.กับผู้ชุมนุมรวม 98 รายต่อศาลอาญานั้น คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ โดยรอสืบพยานอีกครั้งเดือน มี.ค. 2561